ฌอห์ณ น้ำตาแตกขอแฟนสาว เพชร แต่งงาน ฝากไข่ไว้เรียบร้อยเตรียมมีลูก บาลานซ์งานและชีวิตคู่

ใกล้จะเป็นว่าที่เจ้าบ่าว หลังพระเอกหนุ่ม ฌอห์ณ จินดาโชติ ขอแฟนสาว เพชร ภิพัชรา แก้วจินดา ดีไซเนอร์สาวเจ้าของแบรนด์ “PIPAT CHARA” แต่งงานสุดหวาน ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมื่อปลายปีที่แล้ว เมื่อเจอหนุ่ม ฌอห์ณ ในงานบวงสรวงละคร “พระนคร 2410” เลยอัปเดตความคืบหน้างานแต่งงานว่า

“จริงๆ เหลือเพียงไฟนอลครับผม เราได้ฤกษ์ที่เหมาะสม มาแต่ว่าในที่สุดจะต้องให้ท่านเค้าเป็นคนเลือก เพราะเหตุว่าตอนนี้เค้าคิวแน่นทั้งปีเลยครับ ยุ่งกว่าเราอีก ธุรกิจแฟชั่นของเค้าไปได้สวย ขณะนี้ก็อยู่ฝรั่งเศส เดี๋ยวกลับมาก็จะไปเปิดที่ญี่ปุ่น เราก็เลยจะต้องดูคิวว่าไหวมั้ย จังหวะพอดี กับเค้าไหม เพราะคิวเราทราบอยู่แล้ว เราแพลนมาพร้อมกับผู้จัดการอยู่แล้ว ว่าเราจะรับละครช่วงไหน ตอนไหนเราเบรก ช่วงไหนเรากลับไปทำงานบริษัท”

ฌอห์ณ จินดาโชติ งานละคร

ได้ฤกษ์ช่วงไหน?

“ต้นปีแรกคงไม่ทัน เนื่องจากเราคุยกันตั้งแต่วันขอว่า ต้นปีหน้าจะไม่ทัน หนึ่งคือผมก็พึ่งจะเปิดกล้องอีกเรื่องหนึ่ง แล้วช่วงนี้ก็เป็นช่วงโปรโมตละคร ก็จะเป็นช่วง ที่เราต้องโฟกัสเรื่องงานของเราก่อน

เวลาเราทำการสู่ขอ มันไม่ใช่แค่หาวันอย่างเดียว มันต้องหาแพลนเนอร์ เราต้องลิสต์รายชื่อแขกเยอะ แล้วเรามีญาติหลายๆ ท่านด้วย ก็น่าจะเป็นตอนควอเตอร์ที่ 2-3 เป็นต้นไปครับ น่าจะช่วงกลางๆ ถึงปลายครับ เราจะพยายามออร์กาไนซ์ให้มากที่สุด ด้วยคุณเค้าก็มีความสามารถ สำหรับในการจัดอีเวนต์ เวลาเขาจัดแฟชั่นโชว์ เราก็ทำโปรดักชัน เราเลยคอลแลปกันได้ บางทีอาจต้องการผู้ช่วย เป็นเรี่ยวเป็นแรงให้เรา”

ตื่นเต้นมากแค่ไหน?

“ตื่นเต้นมาก แต่เป็นความตื่นเต้นที่มีความสุข เป็นช่วงเวลาที่ดี คุณเค้าก็มีความสุข เพราะทุกครั้งเวลาเราถ่ายละครเสร็จ เราก็จะนัดหมายกันว่า 4-5 ทุ่มเราจะต้องมานั่งแพลนกัน นั่งดูเรฟเฟอเรนซ์ ดูมู้ดแอนด์โทนภาพ ที่เราจะวาง หรือบรรยากาศที่เราต้องการ แต่ละสัปดาห์เราอัปเดตกันอยู่เสมอ ก็เป็นหนึ่งท็อปปิก ที่เราได้คุยกัน

เพราะว่ามันเพียงวันเดียวนะครับ ก็ต้องการให้ดีที่สุด ซึ่งมันมีทั้งงานหมั้น งานเย็น มีทั้งการพระราชทานน้ำสังข์ มันก็จะมีหลายขั้นตอนครับ ถามว่างานใหญ่มั้ย เรียกว่าญาติคุณเค้าเยอะ ถึงบอกว่าเป็นช่วงที่มีความสุข เป็นช่วงที่เรามีเป้าหมายอย่างชัดเจน เราต้องการทำงานเท่าที่ สรรพกำลังเราจะทำได้ เพื่อที่จะจัดงานให้ได้”

มู้ดแอนด์โทนจะเป็นอย่างไร?

“คุณเค้ากับผมเทสต์คล้ายๆ กันเรามีคอนเซปต์แล้ว แต่ว่าก็ไม่กล้าบอกเยอะ เดี๋ยวมันเปลี่ยนแล้วจะไม่ตรงปก แต่ผมกล่าวถึงรสนิยมคุณเค้าดีอยู่แล้ว ดังนั้นผมมีหน้าที่ แค่ช่วยเกลาหรือตบให้ ซื้อหรือไม่ซื้อเพียงแค่นั้น คือวันที่ขอแต่งงานไป ก็มีเพื่อนๆ พี่ๆ มาให้คำแนะนำเยอะ

ทั้งนิว-ชัยพล พูพาร์ต, โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล,แอริน ยุกตะทัต แล้วช่วงนี้เราไปงานแต่งงานทุกอาทิตย์ เราก็เสมือนได้ไปดูงาน ในที่สุดมันก็อยู่ที่เราสองคน คุยกับเค้าชัดเจน วันที่ขอแล้วว่า มันคือวันของเราสองคน ทำในสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด สิ่งแวดล้อมเป็นแค่องค์ประกอบ ในการตัดสินใจ”

ฌอห์ณ จินดาโชติ เพชร

ย้อนถามถึงโมเมนต์วัน ฌอห์ณ จินดาโชติ ขอแต่งงาน น้ำตาคลอเลย?

“ผมตื่นเต้นมากๆ มันเป็นขั้นตอน ที่เราแพลนมาอยู่แล้ว แต่ว่าหน้างานมันต่างจากในละคร ที่เราเคยเล่น บทพูดผมก็ลืมไปหมด เป็นความรู้สึกล้วนๆ แต่สุดท้ายมันก็เป็น สิ่งที่เราภูมิใจมากๆ น้ำพักน้ำแรงเรา การที่เราตั้งใจ ทำอะไรเพื่อคนคนหนึ่ง แล้วมันเป็นความรู้สึกดีๆ นะ”

น้ำตาซึมเลย?

“จริงๆ ผมน้ำตาคลอเบ้าก่อนเค้าด้วยซ้ำ เนื่องจากรู้สึกว่าแหวนมันมีความหมาย เราค่อยๆ เก็บหอมรอมริบมัน แล้วมันเป็นสถานที่ ที่คุณเค้าเติบโตอีก ปารีสอีก ญาติเค้ามา ญาติเรามา มันเลยมีความหมายมากครับ ทุกอย่างที่เราทำในวันนั้น เป้าหมายคือเค้าเป็นหลักแหละ แต่ที่สำคัญ คือมันเป็นสิ่งที่เราต้องอินด้วย อย่างปารีส คือมันเป็นที่ที่เค้าเรียน แล้วเค้าทำงานที่นั่นมาก่อน มันเป็นที่เดียว

ที่ผมกับเค้ายังไม่เคยไป มันเป็นบ้านยายเค้าที่เค้าเติบโต ผมก็อินกับยายเค้า ทุกสิ่งมันพอเหมาะพอเจาะ แล้วเค้าก็ยังกล่าวว่าขอบคุณ ที่ขอที่นี่ ในห้องนี้มันดีที่สุด ไปกว่าวันนี้ไม่ได้แล้ว พอเราทั้งสองอิน ผลลัพธ์มันก็ออกมาดีครับ”

แต่งแล้วแพลนมีลูกกันเลย?

“เค้าก็ต้องการมี เราก็อยากมี เหตุผลของการแต่งงาน นอกจากจะอยู่ร่วมกันอย่างเหมาะสม และดูไม่น่าเกลียด นั่นคือการเตรียมมีลูกอย่างถูกต้องครับ แต่รู้สึกว่าหลังแต่งค่อยว่ากัน ว่าช่วงไหนเหมาะสม ต้องดูร่างกายเค้าด้วย”

มีการฝากไข่ไว้แล้ว?

“จริงๆ ฝากไข่มาก่อนแล้วครับผม เราจัดเตรียมมาก่อนแล้ว ผมว่าด้วยเค้าห่าง กับผมแค่ปีเดียว ตั้งแต่วันแรกที่คบกัน เค้าก็เป็นลูกครึ่งอะ ชัดเจนว่าคบกันหวังไปถึงจุดไหน ด้วยเหตุว่ายิ่งผู้หญิงอายุมากขึ้น มันยากกับการมีบุตรครับ เราก็จะต้องคิดเผื่อ แล้วพวกเราก็จริงจัง เราบางทีอาจพบกัน ในช่วงโควิด แต่เราก็พยายามอย่างที่สุด คือสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างความชัดเจน ก็เป็นโอกาสที่ดี ที่เราอยู่ด้วยกันเยอะ เราเลยเห็นนิสัยกัน รวมทั้งเลือกที่จะดำเนินชีวิตด้วยกัน”

เรื่องเวลาล่ะ เพชรก็ทำงานเยอะมาก?

“มันไม่ง่ายสำหรับผมแล้ว ผมถ่ายละคร ถ้าเกิดเป็นตัวหลัก เลิก 4 ทุ่ม นัด 7 โมง โทรศัพท์แทบจะไม่ได้จับ อันนั้นก็เป็นปัญหาหนึ่ง ที่ผมต้องปรับตัว คุณเค้าบินทีก็ 10-15 วัน แต่ผมก็ต้องคุยว่า อันไหนสำคัญผมจะไปช่วย อันไหนที่เค้าต้องการเรา เราเลือกเขามาแล้ว เรื่องเค้าก็สำคัญ แต่เราต้องฉลาด ที่จะบาลานซ์งานกับชีวิตส่วนตัว หากเราเทให้งานหมด ชีวิตส่วนตัวเราแย่ คุณภาพชีวิตเราก็แย่ หรือเราให้ความรัก แต่งานเราไม่รับผิดชอบ เงินก็ไม่มา ผู้ใหญ่ก็ไม่จ้าง เพราะฉะนั้นผมไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา แต่ว่ามันเป็นความยาก ที่ทุกคนต้องปรับ คุณเค้าก็ต้องปรับไม่ใช่ผมคนเดียว”.

เผยไทม์ไลน์ อ๋อม อรรคพันธ์ ป่วยโรคมะเร็งใกล้หัวใจ ลามไปที่ปอด

ภายหลังนางร้ายสาว โม อมีนา พินิจ ให้สัมภาษณ์ว่าพระเอกหนุ่มเข้ม อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์ เจ็บป่วยโรคมะเร็งใกล้หัวใจ ลุกลามไปถึงปอด เข้ารับการผ่าตัดในวันนี้ (31 มกราคม 2566) โดยมีแฟนๆ ต่างให้กำลังใจพระเอกหนุ่ม จำนวนไม่ใช่น้อย

ล่าสุด มดดำ คชาภา ได้รายงานข่าว อาการป่วยของ อ๋อม อรรคพันธ์ ในรายการ “ข่าวใส่ไข่” ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 โดยบอกว่าสำหรับการพักรักษาตัวครั้งนี้ อ๋อมเกิดกำลังใจดี และกล่าวว่า ถ้าหากใครติดตามผลงาน อ๋อมมาตลอด เขาอยู่หน้าจอช่อง 7 มาเป็นสิบๆปี ไม่มีช่วงไหนที่หายไปจากจอ

อ๋อม อรรคพันธ์ เตรียม

พร้อมทั้งเปิดเผยไทม์ไลน์ลำดับอาการป่วยของหนุ่ม อ๋อม ไว้ว่า

มีวันหนึ่งที่อ๋อม ถ่ายละครแล้วรู้สึกเหนื่อย และวูบ ปรากฏว่าไปตรวจปุ๊บก็ไปพบ ตอนนั้นก็มีข่าวอักษรย่อออกมา จนกระทั่งอ๋อมก็พูดในไอจีว่า ผมไม่สบายครับผม ต่อจากนั้นก็มีการเปลี่ยนตัว ละครของอ๋อมไป เพื่อรักษาตัว

อ๋อมรักษาตัวมาตั้งแต่เดือน ตุลาคม มาจนถึงปัจจุบันนี้ 4 เดือนเต็มๆ เข้าออก รพ. รวมทั้งวันนี้โม อมีนา ออกมากล่าวว่าอ๋อม เป็นมะเร็ง มีชิ้นเนื้อขนาด 12 เซนติเมตร อยู่ด้านบนบริเวณหัวใจ ลุกลามมาที่ปอด ทำคีโมมาแล้ว 5-6 ครั้ง ขณะนี้ชิ้นเนื้อเล็กลงแล้ว เมื่อชิ้นเนื้อเล็กลง ความหวังของน้องเขาคือ ผ่าตัดชิ้นเนื้อร้ายออก ต่อจากนี้ก็ดูว่า ต้องทำคีโมอีกกี่ครั้ง

ซึ่งมดดำพูดว่าได้คุยไลน์กับอ๋อมบ้าง เวลาคนป่วย เราได้แต่ว่าให้กำลังใจ พร้อมทั้งอวยพรขอให้การผ่าตัดออกมาดี รวมทั้งเชื่อว่า วันนึงน้องจะต้องกลับมาแข็งแรง แล้วก็สิ่งที่อ๋อมรักที่สุด คือการแสดง ก่อนที่จะบอกอีกว่า สิ่งที่อ๋อมบอกตลอดเวลา กับฉันคือ “พี่มด ออกไปผมจะมีงานมั้ย” ฉันพูดว่ารับประกัน ถ้าเกิดยังอยู่วงการ มีงานแน่นอน

อัปเดตอาการล่าสุด อ๋อม อรรคพันธ์ หลังป่วยโรคมะเร็งใกล้หัวใจ-ลามปอด ระยะ 2-3

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา พระเอกชื่อดังขวัญใจ แฟนละคร อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์ จะต้องถอนตัวจากละครกะทันหัน เหตุเพราะต้อง เข้ารับการรักษาตัว ที่โรงพยาบาล ต่อมามีกระแสข่าวลือว่า เจ้าตัวป่วยหนัก ท่ามกลางกำลังใจอย่างมากมาย

ปัจจุบันวันที่ (31 ม.ค. 66) นักแสดงสาว โม อมีนา พินิจ น้องคนสนิทได้ออกมาอัปเดต อาการป่วยของ อ๋อม อรรคพันธ์ โดยเผยว่า ป่วยเป็นมะเร็งใกล้หัวใจ-ลุกลามปอด ระยะ 2-3

“วันนี้ก็ผ่าตัด เนื่องจากก้อนเนื้อขึ้นตรงหัวใจพอดีนะคะ จะต้องเป็นการผ่าตัดเพื่อแหวกออก เวลานี้ก้อนเนื้อราวๆ 10 ซม. ส่วนปอดที่ลามไป 2 จุด แพทย์จะไปเช็กเนื้ออีกครั้งนึงว่า เป็นอะไรยังไง

ซึ่งเราไม่รู้ว่าเขาเรียกตรงนี้ว่าอะไร ศัพท์แพทย์ค่ะ แต่ว่าขึ้นบนชั้นกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งมันจะทำให้พี่เขาอึดอัด หายใจไม่ออก ที่ปอดมันเพียง 2 จุดเล็กๆ แพทย์จะต้องเอาไปตรวจอีกทีนึง

แต่ว่าเวลานี้กำลังใจของ พี่อ๋อม สู้มากจริงๆ เพราะทำการให้คีโม มาระยะนึงแล้ว เพราะว่าตรวจพบตั้งแต่ ต.ค.ปีที่แล้ว (2565) เริ่มพบที่ ระยะ 2-3 แล้วค่ะ คร่าวๆ

ส่วนหลังจากนี้ก็จะต้องพักประมาณ 3 วัน แล้วก็ให้คีโมตามโดส ที่หมอกำหนดไว้เลย ว่าหลังผ่าออกมาแล้ว จะต้องคีโมอีกกี่ครั้งอะไรยังไงมากกว่า ซึ่งคีโมเขาเริ่มให้ ก่อนผ่าตัด 5-6 ครั้งแล้วค่ะ แล้วก็นัดผ่า เนื่องจากตอนแรก 12 ซม. และก็ลงมา 10 เซนติเมตร”

อ๋อม อรรคพันธ์ เผย

อ๋อม อรรคพันธ์ ป่วยมะเร็งใกล้หัวใจลามถึงปอด ก่อนเข้ารับการผ่าตัด

ภายหลังที่มีข่าวออกมา ก่อนหน้าที่ผ่านมาว่า พระเอกมีชื่อเสียงเจ็บป่วยโรคร้าย ทำให้หลายท่าน ต่างเดากันไปต่างๆ นานาว่าเป็นคนไหน พร้อมทั้งอวยพรขอให้พระเอกหนุ่ม คนนี้หายป่วยโดยไว

ล่าสุด โม อมีนา ที่มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว “AFbrother” แพลตฟอร์มอินฟลูเอนเซอร์แอดเวอร์ไทซิ่ง”ได้ออกมาเผยเป็นครั้งแรกว่า อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์ ป่วยด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งมีก้อนเนื้อขึ้นที่กล้ามเนื้อหัวใจ และก็ลุกลามมาปอด ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทำคีโมไป 5-6 ครั้งแล้ว รวมทั้งในวันที่ 31 มกราคม 2566 อ๋อม ได้เข้ารับการผ่าตัด พร้อมด้วยช่วยกันอวยพร ขอให้พี่ชายปลอดภัย

ถามอาการอ๋อม อรรคพันธ์ เป็นอย่างไรบ้าง?

“มิได้พบพี่อ๋อมเลย แต่ว่าจะไปเยี่ยมแกอยู่ มีการนัดกันแล้วว่าจะไปเยี่ยม เราก็ให้เกียรติคนป่วย ถ้าหากเขาอยากไพรเวท เราก็จะให้เขาไพรเวท เราเข้าใจอาการคนเจ็บป่วย เข้าใจสภาพจิตใจ พี่อ๋อมดี ที่บอกได้คือพี่อ๋อมสู้มาก สู้จริงๆ วันนี้พี่อ๋อมผ่าตัด ตอนตอน 11 โมง ก็ให้ทุกคนเป็นกำลังใจ ให้พี่อ๋อมด้วย ก้อนเนื้อขึ้นตรงหัวใจพอดี เป็นการผ่าตัดเพื่อแหกช่วงอกออก ก้อนเนื้อราวๆ 10 ซม. ขึ้นบนชั้นกล้ามเนื้อหัวใจ มันให้พี่อ๋อมอึดอัด หายใจไม่ออก ส่วนที่ปอดที่ลามไป 2 จุดเล็กๆ หมอจะไปเช็กเนื้ออีกทีนึง ว่าเป็นอะไร ยังไงต่อไป”

ข่าวใบ้ว่าเป็นโรคมะเร็งปอด?

“ไม่ค่ะ ตรงหัวใจค่ะ ซึ่งโมยังไม่มั่นใจว่าแพทย์เรียกว่าอะไร เป็นมะเร็งอะไรสักอย่างที่หัวใจ พี่อ๋อมสู้มากจริงๆ แกให้คีโมมาระยะนึงแล้ว แกก็สู้มากๆ เราก็บอกเขาเลยนะว่า รับโทรศัพท์ให้บ่อยแล้วกัน เพราะเหตุว่าจะโทรไปหาบ่อยหน่อยนะ เขาก็รับรู้ เขาก็ยังคุยปกติ ประเดี๋ยวอีกไม่กี่วันจะไปหาพี่อ๋อม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเราก็คุยโทรศัพท์กันอย่างเดียว มิได้เจอ เมื่อวานนี้ก็คุยกับเขา พูดว่าเดี๋ยวจะไปเยี่ยมนะ เขาก็บอกมาสิ มากวนประสาทเราหน่อย เขาคงจะเหงาแหละ”

เขายังกวนดังเดิม?

“เขายังอย่างเดิม อย่างที่บอก อรรคพันธ์ สู้มาก ทุกคนส่งกำลังใจให้พี่อ๋อม คือดีที่สุดแล้วค่ะ เพราะว่าหนึ่งพี่เขาสู้ และเขาอยากได้กำลังใจจากแฟนๆ ละคร เอฟซีพี่เขาทุกคน”

เขามีบ่นต้องการกลับมาทำงาน?

“เขาก็มีบอกเฮ้ย มึงเปิดโปรดักชั่นแล้วอย่าลืมกูนะเว้ย โมก็บอกเขาว่าหายแล้วออกมา ให้ได้ก่อนไหม ที่เหลือเดี๋ยวจะจัดการให้เอง จะซัพพอร์ตเอง”

เขาตรวจเจอก้อนเนื้อเมื่อไหร่?

“ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ที่เพิ่งจะเริ่ม เจอก็ระยะ 2-3 แล้ว คร่าวๆ กำลังใจเขาดีค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงเลย ไม่ทราบแหละ ฉันจะทำให้นางหายให้ได้”

แฟนคลับรู้ข่าวก็ช็อกเช่นเดียวกัน?

“มันก็ช็อกแหละ เรามีความรู้สึกว่าเราเป็นห่วงเขามากกว่า เขายังอายุน้อย ดูยังไม่ขนาดนั้น ตอนนี้ให้กำลังใจอย่างเดียวเลยค่ะในเวลานี้ เมื่อวานนี้ก็บอกเขา ให้กำลังใจเขาว่ายังไง ก็จะต้องตื่นมาให้ได้นะ พอเกี่ยวกับหัวใจ เราก็รู้สึกกังวล”

กองเขาต้องล้มต้องเปลี่ยนตัวกะทันหัน เพราะอาการป่วย เขารู้สึกเสียใจ?

“มันจะต้องรู้สึกเฟลแหละ เราจะพยายามไม่บอกอะไร ที่ทำให้เขารู้สึกเฟลลง เราซัพพอร์ตเต็มที่ ไม่ต้องเป็นห่วง อมีนาซัพพอร์ตอรรคพันธ์ดีอยู่แล้ว”

ช่วงเวลาในการรักษานานขนาดไหน?

“ตามโดสของคีโม ที่หมอกำหนดไว้เลยว่า หลังผ่าออกมาแล้ว ต้องคีโมอีกกี่ครั้ง เขาให้คีโมก่อนผ่ามา 5-6 ครั้งแล้ว ก็นัดผ่า ด้วยเหตุว่าก่อนหน้าที่ผ่านมา 12 เซนติเมตร และก็ลดลงมาเหลือ 10 ซม. ภายหลังจากให้คีโมไป ให้กำลังใจพี่อ๋อมด้วยนะคะทุกคน ให้พี่สู้ๆ”

แอน ทองประสม ยกย่อง แต้ว ณฐพร สปิริตแรงถอดสายน้ำเกลือมาถ่ายละคร

ทำเอานางเอกแล้วก็ผู้จัดละครคนเก่ง แอน ทองประสม นับถือสปิริตนางเอกสาว แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ ที่ป่วยเป็นอหิวาตกโรค แต่ยังถอดสายน้ำเกลือมาถ่ายฉากบู๊ละครเรื่อง “แค้น” ยกให้เป็นนางเอกจอมแกร่ง พบ แอน มาร่วมงาน ยูนิโคล่ เปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลกชัน Spring/Summer 2023 ภายใต้ธีม “The Art of Everyday Life” ที่แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน รวมทั้งประเด็นชวนกรี๊ดที่ แอน พลาดไปจับเป้าพระเอกรุ่นน้องคนสนิท เจมส์-จิรายุ เข้าอย่างจังขณะสอนออกกำลังกาย คาร์ดิโอท่าหกสูง ทำให้รู้ว่า เจมส์ ไม่ใช่เด็กน้อยสำหรับ แอน อีกแล้ว

เริ่มจากถามถึงเรื่องที่แต้วป่วย?

“ขณะที่แต้วบอกว่า พี่แอนแต้วเป็นโรคนี้ แอนยังร้องหือ แต้วตลกแล้ว ไม่มีแล้วโรคนี้ เราก็ยังแซวเค้าเลย มันไม่มีมานานแล้ว น้องน่ารัก ไม่มีอะไรกระทบกับกองเลย เป็นด้วยความที่วีกนี้จะปิดกล้องแล้ว วีกที่แล้วเลยเหมือน การรวมตัวนักแสดงทุกคน พอแต้วไม่สบายเค้าก็กังวลใจ แต่ว่าเค้าก็รู้สึกไม่ไหวจริง ๆ เลยตกลงกันว่างั้นกัดฟันมั้ย มาตอนหลังเที่ยงก็ได้ นอนที่โรงพยาบาลให้เต็มที่ก่อน อัดน้ำเกลือมาถ่ายอีกครึ่งวัน แล้วกลับไปนอนโรงพยาบาลใหม่ คือเค้าก็น่ารัก เค้าอยากให้งานมันเดิน แต่ตัวเค้าก็ไม่ไหว เค้าก็คิดเองว่าเค้าต้องการจะทำอย่างนี้ แอนให้เค้าประเมินตนเองว่าไหวมั้ย ถ้าข้างในไม่ไหวให้บอกพี่ แต่ว่าถ้าหากข้างในยังไหวก็บอกพี่ เค้าก็ประเมินตัวเองว่าเค้าไหว”

แอนแต้ว

ซีนวันนั้นเป็นอารมณ์ประมาณไหน?

“มันเป็นซีนยากหมดเลย ไม่มีซีนง่าย เป็นซีนยากที่สุด มันมากองรวมกันสองวีกสุดท้าย ก่อนปิดกล้อง เค้าก็มาแบบตัวรุมๆ เย็นๆ สลับไปมาตลอด ต้องคอยพยุงคอยถามไหวมั้ย แต่ว่าเค้าก็น่ารักมาก กัดฟันสู้ แต้วเค้าจะต้องบู๊ด้วย อาจจะมีบ้างที่ฉากนี้ แอนต้องการที่จะให้แต้วใส่พลัง 100 วันนั้นก็ 100 ไม่ได้ ได้แค่ 80 ก็จะต้องใช้สแตนอินช่วย แอนอยากได้ฉากนี้จากแต้ว 150 แต่แต้วมีมา 80 เรื่องนี้เลยเป็นเทคนิคคราวแรก ที่ใช้สแตนอินช่วย เพราะแต้วบู๊มากมิได้ มันเป็นฉากสุดท้าย ที่เค้าจะต้องต่อสู้อะไรบางอย่าง บู๊แบบผู้หญิง คือแอนนับถือในสปิริต เค้าเป็นผู้หญิงที่อึดมาก ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ใส่สายน้ำเกลือก็ยังนั่งทำงาน หัวใจเค้าแข็งแรงและก็เยี่ยมมาก นับถือในน้ำใจ ขอบคุณเค้ามากๆ เค้ารู้โปรดักชัน แอนก็ขอบคุณเค้ามาก ที่เค้าสละตนเองให้ขนาดนี้”

ได้บอกแต้วยังไง?

“คือแอนไม่ได้เป็นแนวสวีต พอเค้าออกมาจากโรงพยาบาลเจอกันก็ทัก เป็นไงมั่ง เท่านี้ ก็คิดนะว่าน้อยไปรึเปล่า แต่เราก็ซื้อข้าวต้มมาฝากเค้านะ แต่ว่าเราบางทีอาจมิได้ประคบประหงมเค้าอะไรขนาดนั้น เรามองๆกัน เค้าเป็นผู้หญิงแมนมากๆ เค้าเก็บอาการเก่ง เราดูไม่ออกเลยว่าเค้าป่วยอยู่ เค้าโคตรจะแข็งแรง”

ได้ยินว่าแอฟ-ทักษอร ถึงขนาดพูดว่าเล่นละครกองแอนต้องนอนกลางวัน?

“สงสารมาก นางไม่เคยจะต้องมาพบอะไรอย่างงี้ แอนดูดพลังเค้ามาเยอะ แอนรู้เลยว่าแอนเอาเค้าตาย ตามบทเลย แอนอ่านบทเค้าและก็มีความคิดว่าเล่นได้ยังไง เรายังเล่นไม่ไหวเลย ก็เลยยังเป็นห่วง แทนเค้าว่าเค้าจะรอดมั้ย แต่เค้าก็โคตรสู้เลย คือแอฟกับแต้วเป็นผู้หญิงสองคน ที่เกิดมาเพื่อคู่กันเลย แอฟอาจแรงไม่สู้แต้ว แต่หัวใจเท่ากัน แอฟไม่เคยบอกเลยว่าเค้าไม่ไหว เค้าได้หมด แอนถามเค้า แอฟไหวมั้ย เค้าหันมาถามเรากลับ พี่แอนว่าแอฟจะไหวมั้ยคะ ก็ให้เค้าทำอะไรที่เค้าไม่เคยได้ทำ ก็มีอยู่วันนึงเค้าเล่นจนวันรุ่งขึ้น เค้าไม่สามารถพูดได้เลย เสียงหายและไข้ขึ้น ต้นหอม-ศกุนตลาก็ไข้ขึ้น”

แต่ว่ากองละครแอนไม่ได้โหดไปใช่มั้ย?

“โหดไปหน่อยค่ะ (ยิ้ม) ทำงานกับพี่ต้องอดทนค่ะ”

แล้วพระเอกนาย-ณภัทรเป็นไงบ้าง?

“พระเอกสแตนด์บายรออย่างเดียวค่ะ ด้วยเหตุว่าขณะนี้มีความสุข รู้เลย หน้าตาคือมาแบบเปล่งประกาย ความรู้สึกดีๆ”

คลั่งรักมั้ย?

“เค้าดูเหมือนเด็กที่ความรัก มันเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับเค้า เหมือนเราเคยเป็นเด็กน้อย เราก็เข้าใจ หันซ้ายหันขวาอะไรมันก็ดีไปหมด ผู้ใดแซวอะไรก็ยิ้ม หัวเราะ บางทีเค้าด่าอยู่ยังไม่ทราเลย นึกว่าแซว คือแดกดันอยู่ยังไม่รู้ตัว จะเรียกคลั่งรักเค้าก็ไม่ถึงเบอร์นั้น เรียกว่าเค้ากำลังดี แล้วเค้าก็ไม่ได้มาอวดอะไร เค้าก็แค่ยืนยิ้มเฉยๆ ให้ทุกคนแซวเค้าเล่นงานเค้า”

เค้ากล่าวว่าเค้าโดนแซวเยอะ?

“ใช่ เวลาเค้าบิดเค้าเขินเรายิ่งชอบมอง ก็ยิ่งแซวเค้า น่ารักดีค่ะ”

แอน ทองประสม ชม

ถาม  แอน ทองประสม เรื่องที่มือพลาดไปจับเป้าเจมส์-จิรายุ?

“หูว นี่คิดว่าแอนตั้งใจกันเหรอ เรื่องเปลี่ยนเลยนะ คือเรื่องนี้ทำให้รู้เลยว่าเจมส์ ไม่ใช่เด็กน้อยสำหรับแอนอีกต่อไป”

ตอนโดนตกใจมั้ย?

“ตกใจ แต่ก็จะต้องทำขำๆฮาๆ โดนเลย ซึ่งไม่รู้ต้องทำอย่างไร ก็มีเลิ่กลั่กกันนิดหน่อย ทำขำๆ มันก็เต็มๆ มือเลยมันก็ต้องมีรู้สึกกันบ้าง แอนว่าเค้าก็รู้สึก เค้าก็คงจะรู้สึกจุก”

เค้าบอกจะไม่ให้เราสอนอีกแล้ว?

“จริงค่ะ แอนชวนเค้าขึ้นอีกเค้าก็ไม่ขึ้น”

ท่าดูยาก?

“ใช่ เอวเค้าแอ่นไปแอ่นมา เราก็ประคองด้วยความหวาดกลัว เค้าจะแอ่นแล้วเจ็บหลัง เลยรีบประคองข้างหน้า”

เรียกว่าเป็นความหวังดีที่ผิดจังหวะ?

“ผิดจังหวะก็ดีนะคะ (หัวเราะ) มันพอดีเลย แอนว่าเจมส์เค้าไม่เขินแอนหรอก”

แฟนคลับพูดว่าต้องการสิงเรา?

“แอนก็โดนบางคนๆ ที่หวงเจมส์บางคนด่าด้วยเหมือนกันนะ แบบว่ายูตั้งใจรึเปล่า ยูต้องการสัมผัสเค้าใช่มั้ย แอนก็มองขำๆ มันแล้วแต่คนจะแปลความเลย คือการออกกำลังกาย มันเปลืองเนื้อเปลืองตัวอยู่แล้ว เราบางทีอาจชินแล้ว แต่มันก็จริงที่ว่าพอได้สัมผัส แอนไม่อาจจะมองเจมส์ดังเดิมได้อีกเลย”

เจมส์กล่าวว่าเค้าตกใจนิดนึง?

“จริงๆมีอีกกล้องนึงที่ถ่ายไว้ แล้วเค้าหันมาทำหน้าแปลกๆ แต่ว่าแอนไม่ได้ตัดมา เมื่อก่อนเจมส์ในสายตาแอน คือเป็นเด็กน้อย เป็นลูก ส่วนเดี๋ยวนี้ (หัวเราะ) ก็ลูกก็โตแล้ว มองเจมส์แบบไม่บริสุทธิ์ใจแล้ว”

เค้ามาขอเราก่อนลงคลิปมั้ย?

“เค้ามาขอแอนว่าลงได้มั้ยครับ แอนก็บอกลงไปเลยค่ะ ไม่ว่ากัน แต่ว่าแอนก็ไม่รู้นะว่า เค้าจะตัดเป็นยังไง เค้าแค่บอกว่าเค้าขอลงคลิป แล้วคือนางซูมเอง นางขายของไง แอนว่านางจงใจ แอนเป็นแค่เกมเกมนึง เป็นเพียงเหยื่อที่ถูกใช้ เกมพลิกเลย แอนเลยจะต้องมาบอกวันนี้ไงว่าเจมส์โตแล้ว”.

ใบเฟิร์น แฮปปี้ทริปอังกฤษเที่ยวกับครอบครัวและ นาย ไม่ชินเปลี่ยนคำเรียก

ปล่อยให้หนุ่ม นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ เล่าความหวานร่วมทริปอังกฤษ แถมยังทำคะแนนเพิ่ม ประกาศชัดต้องการจีบสาว ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องการหยุด พบ ใบเฟิร์น ร่วมงานเทศกาลตรุษจีนนครสวรรค์ แห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ ประจำปี 2565-2566 นางเอกสาวเดินทาง มาร่วมงานและร่วมขบวนรถแห่

เลยถาม ตกลงสถานะกับนาย ปัจจุบันนี้เป็นยังไง?

“หนูยังมิได้คุยเรื่องสถานะเลยค่ะ แบบว่าไม่ได้เป็นคนซีเรียสเรื่องสถานะเลย เวลานี้ก็พบกัน ไปไหนมาไหน กันก็แฮปปี้นะคะ”

ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ในงาน

เรียกว่าเป็นความสุขของกันและกันได้มั้ย?

“ได้ (ยิ้ม)”

เค้าบอกว่าเค้าจะจีบเฟิร์นจนกว่าจะยอมรับเค้า?

“หนูมิได้เป็นคนกำหนดอะไรเลยค่ะ แต่ถ้าเค้าต้องการจีบก็เป็นอะไร ที่น่ารักดี เป็นเรื่องราวดี ๆ ที่เรามีให้กัน วันข้างหน้าก็เป็นความทรงจำ ที่น่ารัก”

เห็นพูดว่าพอเราหนาว เค้าก็ส่งน้ำขิงให้?

“ใช่ค่ะ เฟิร์นเองก็ไม่เคยเห็นเล่าในพาร์ตนี้ ปกติเราก็จะไม่ได้คุยกันอย่างนี้ หากพูดว่าหนาวแล้วมีบัวลอยน้ำขิง มันก็เป็นขนมที่เราชอบกิน”

มันเปลี่ยนจากที่เราเป็นเพื่อนกันใช่มั้ย?

“เป็นวิธีที่เค้าดูแลเรา หรือเราดูแลกันหลาย ๆ อย่างก็เป็นอะไรอีกแบบหนึ่งค่ะ”

คำพูดเรียกกันเปลี่ยนมั้ย?

“ก็มีเปลี่ยนบ้าง”

ชินมั้ย?

“ก็มีชินบ้าง ไม่ชินบ้าง หลัง ๆ นายจะเรียกเฟิร์นว่า “ใบคะ” (หัวเราะ) ไม่ค่อยคุ้นนะ แต่ว่าเราก็ตอบไปว่า “ขา” ส่วนเฟิร์นก็เรียกเค้าว่า “นาย” หรือ “นายคะ” ก็มีบ้าง แต่บางทีอาจดูแปลกซักหน่อย ไม่ชิน”

ใครคลั่งรักกว่ากัน?

“ถ้าเกิดถามหนูนะ หนูว่าเค้า”

แล้วเราไม่มีอารมณ์นั้นเลยเหรอ?

“มีค่ะ แต่เราเขินไง ก็เล่นบ้างอะไรบ้าง มีพาร์ตที่เราคุยกันหวานขึ้น หรือพาร์ตที่เราแกล้งกวนประสาทกันดังเดิม ก็ยังคงอยู่”

ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก นาย

ท่องเที่ยวอังกฤษเป็นยังไงไอติมอร่อยมั้ย?

“ไอติมหวานค่ะ ก็ดีค่ะ เฟิร์นคิดว่าแฮปปี้มากนะ พอเราทำงานมาทั้งปี พอได้หยุดยาว ได้ อยู่กับแฟมิลี่ที่นู่น ทุกสิ่งทุกอย่างเลย นายก็มาเจอ ทุกอย่างเป็นการพักผ่อนอย่างมีความสุข”

ในเวลานั้นคนก็ลุ้นเนอะ เมื่อไหร่รูปคู่จะมา?

“เราก็อยากลงไว้เป็นความทรงจำ”

วาเลนไทน์นี้มีงานมั้ย?

“ไม่มี ในเวลานี้ยัง”

แพลนไปไหนมั้ย?

“มีค่ะ แต่หนูไปของหนู แต่เดี๋ยวบอก ยังไม่ชัวร์ค่ะ”

เป็นวาเลนไทน์แรกของคู่ เราคาดหวังอะไรมั้ย?

“เวลานี้ก็เหนือความคาดหวังของพวกเรานะคะ บางทียังเคยคุยกันเลยว่า ไม่อยากเชื่อเลยเนอะว่า เราจะมาเดินเล่นอยู่ด้วยกัน ทั้งสองคนมิได้คาดหมายว่าต้องทำอะไรอย่างงี้ เป็นที่เราเป็นกันอยู่ทุกวันนี้ ก็เหนือความคาดหมายไปแล้ว”

อยากรู้คนรอบข้างว่ายังไงบ้าง?

“แซวค่ะ ทุกที่ ตัวเค้าก็จะมาบ่นว่า ไปกองโดนแกล้ง ส่วนเฟิร์นก็มีความเวลารับโทรศัพท์ก็จะฮัลโหล ก็เป็นฮาโหยว เพื่อนๆก็จะแบบ เป็นอะไร”

มีเสียง 2 เสียง 3?

“ก็น่ารำคาญเช่นกันนะ (หัวเราะ) คนข้างตัวรำคาญหมด”

ความโบ๊ะบ๊ะล่ะ?

“โบ๊ะบ๊ะเหมือนเดิม”

หลายท่านก็พูดว่าเราสวยขึ้น นายชมมั้ย?

“ไม่ค่ะ เค้าบอกว่าสวยอยู่แล้ว”

ใบเฟิร์นเที่ยว

ภาพคู่มาแล้ว แฟนๆ ฟินเวอร์ นาย ณภัทร-ใบเฟิร์น โชว์สวีท สบตา-ควงแขนเที่ยวอังกฤษ

ภาพคู่มาแล้ว แฟนคลับฟินเวอร์ นาย ณภัทร-ใบเฟิร์น พร้อมใจปล่อยภาพ โชว์สวีท จ้องตา-ควงแขนเที่ยวอังกฤษ คนบันเทิงแห่ร่วมยินดี

หลังจาก “นาย-ใบเฟิร์น” สองเพื่อนสนิทที่ประกาศสิ้นสุดทางเพื่อนไปไม่นาน โดยที่ หนุ่มนาย เปิดใจว่าคิดกับสาวใบเฟิร์นมากกว่าเพื่อน จนกระทั่งเป็นข่าวโด่งดัง แล้วก็แฟนคลับต่างลุ้นกันเป็นอย่างยิ่ง

ปัจจุบัน ทั้งนาย ณภัทร และ ใบเฟิร์น ที่ในตอนนี้ทั้งสองกำลังเที่ยว อยู่ที่ประเทศอังกฤษ ได้โพสต์ภาพคู่ผ่านสังคมออนไลน์ส่วนตัว ทั้ง ไอจี รวมทั้ง เฟซบุ๊ก

ประวัติ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” สาวสวยหน้าใส ดีกรีอดีตกีฬายิมนาสติกลีลาของโรงเรียน

ใบเฟิร์น นั้นนับได้ว่าเป็นสาวสวยที่หลายๆคน ต้องหลงเสน่ห์เธอ ไม่ใช่แค่เพียงแค่หน้าตาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากความสามารถ แล้วก็การวางตัวที่ดีอีกด้วย แต่เรื่องที่หลายๆคนไม่ทราบซึ่งก็คือ ในสมัยเด็กนั้น เธอเคยเป็นนักเรียนทุน จากกีฬายิมนาสติกลีลาของโรงเรียนด้วย

มาทำความรู้จักกับ ใบเฟิร์น สาวสวยหน้าใสนางเอกแถวหน้า ของเมืองไทยคนนี้ ให้เพิ่มมากขึ้นกันซักหน่อย มาดูกันว่าตอนเด็ก ๆ นั้นเธอมีชีวิตยังไงถึงโตมาเป็นสาวสวย ที่เพียบพร้อมอย่างงี้

ใบเฟิร์น น่ารัก

ประวัติ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก

ใบเฟิร์น มีชื่อจริงว่า พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์
เกิดเมื่อวันที่ 30 เดือนกันยายน พ.ศ. 2535
ภูมิลำเนา เป็นคนกรุงเทพมหานคร
ครอบครัวเป็นคนไทยเชื้อสายจีน
สกุลลือวิเศษไพบูลย์เพี้ยนมาจากแซ่หลี่ว์
IG : baifernbah

เรื่องราวศึกษา ใบเฟิร์น
สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาตอนต้น (ประถม 1-4) จากโรงเรียนมีนประสาทวิทยา
สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาตอนปลาย (ประถม 5-6) จากโรงเรียนเทพอักษร
เรียนจบระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
ระดับปริญญาตรี คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการแสดงและการกำกับการแสดง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

สาวสวยที่มีดีกรีกีฬายิมนาสติกลีลา

ต้องบอกเลยว่าจุดเริ่มแรกของเธอนั้น ไม่ใช่การเข้าแวดวงเป็นดาราเลย เพราะเหตุว่าตั้งแต่สมัยเด็กนั้น ใบเฟิร์นนั้น นักกีฬายิมนาสติกลีลา และได้โควต้าพิเศษ ของนักกีฬาในการเข้าเรียนด้วย ซึ่งเธอเคยได้เข้าแข่งกีฬายิมนาสติกลีลา และก็ได้เหรียญรางวัลประเภททีมหลายต่อหลายคราว

โดยส่วนใหญ่นั้นชีวิตวัยเด็กของเธอ จะอยู่แต่ในโรงเรียนและก็สนามฝึกเป็นส่วนใหญ่ ต่างจากเด็ก ๆ ทั่วๆไป โดยเธอได้ถูกชักชวนเข้าวงการบันเทิง เวลาที่เธอกำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมปีที่ 6 จากโมเดลลิ่งที่พบเธอ ในสนามฝึก จนกระทั่งเธอได้งานถ่ายโฆษณา รวมทั้งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการบันเทิง สู่ตำแหน่งนางเอกแถวหน้าของเมืองไทย

"กิก ดนัย" ควงภรรยาและลูกชายเปิดตัว เผยแพลนมีลูกคนที่ 2

นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ “กิก ดนัย จารุจินดา” ควงภรรยา “แนน แพรวณิต” แล้วก็ลูกชายน้องเก้า วัย 3 ขวบ เปิดตัวในรายการครั้งแรก พร้อมเล่าถึงพัฒนาการ และก็ขั้นตอนการเลี้ยงลูก แถมยังเลี้ยงกันเอง แบบไม่มีพี่เลี้ยง รวมทั้งแพลนมีลูกคนที่ 2 ด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ แล้วก็เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

กิก ดนัย คุยแซ่บโชว์

ครั้งแรกที่ออกทีวี

กิก : ครั้งแรก เค้าไม่กลัวเลย เวลาไปไหนมาไหน เค้าปรับตัวได้เร็ว เป็นพัฒนาการของเค้า

อนาคตเล็งให้ลูกเข้าวงการ?

กิก : ไม่ได้กำหนดครับ เราเพียงมีวิธีการเลี้ยงลูก ให้เค้าใช้ชีวิตให้เป็น ปรับตัวให้ได้

ลูกไม่ยอมทำตาม?

แนน : มีช่วงนี้แหละค่ะ เสมือนเค้ากำลังเรียนรู้ ต้องการท้าทาย ห้ามอะไรก็จะทำอย่างงั้น

กิก : เราเลือกที่จะเข้าใจเค้า พัฒนาการของเด็กแต่ละวัย จะต้องยอมปวดหัว จะต้องยอมเหนื่อย บ้านนี้จะไม่เอาสื่อโซเชียลให้เค้า

แนน : ให้ดูบ้างแต่มิได้ตลอดเวลา แต่ว่าด้วยความที่เค้าชอบกิจกรรมด้วย

4 เดือนเอาลูกออกไปข้างนอกแล้ว?

กิก : เอาไปแล้ว ไปทำไลฟ์สไตล์ของเรา แคมปิ้งต่าง ๆ คือเราต้องการให้เค้าเห็นสิ่งแวดล้อม อยู่กับธรรมชาติ

แนน : เราเลี้ยงลูกกันเอง ไปไหนก็ไปร่วมกัน ก่อนมีลูกเราท่องเที่ยวกัน 2 คน พอมีลูกเรายัง ต้องการมีไลฟ์สไตล์แบบนั้นอยู่ เราไม่ต้องการลืมกิจกรรมอะไร ที่เราทำร่วมกัน เราก็พาเค้าไป

พ่อไปดูโรงเรียนแล้ว?

กิก : ผมอากจะเลี้ยงเค้าจากต้นเลย อยากให้เค้ามีพื้นฐานการใช้ชีวิตที่ดี ฝึกมาตั้งแต่จิตใจ จิตใจดี อดทน มันก็จะตามมาความคิดดี เราต้องการเลี้ยงไปในแนวทางนั้นเลย มองเรื่องของโรงเรียนที่เหมาะสมกับ

แนวทางการเลี้ยงลูกของเรา โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่เราถูกใจ สิ่งแวดล้อมดี ไปดูตั้งแต่ยังไม่มีลูก ศึกษาการเรียนการสอนของเค้า มันมากยิ่งกว่าความชอบ ศรัทธาได้เลย ประมาณกลางปี เค้าจะไปเรียนที่นั่น

กิก ดนัย พร้อมลูก

กิก ดนัย มีคนชักชวนทำโรงเรียนเลย?

กิก : ใช่ครับ พอเราเป็นพ่อคน เรารู้สึกอินกับเรื่องพัฒนาการเด็ก เรามีหลานมาก่อน เราจะเห็นปัญหาแต่ละวัย

แม่จะเป็นคนโหด?

กิก : ใจนึงเราไม่อยากให้ลูกเสียใจ กลัวลูกไม่รัก แม่เค้าดุ มีความเด็ดขาดกว่าเรา

แนน : ลูกเราเลี้ยงเค้าเอง มีความรู้สึกว่าจะต้องมีกฏบ้านเราก่อน ถ้าไม่เคารพกฏที่บ้าน จะเคารพกฎภายนอกได้อย่างไร ให้มันมีขอบเขตว่าไม่ควร เราจะบอกเค้าว่าถ้าเกิดทำอันนี้ จะโดนลงโทษ บางครั้งพ่อทำงานนอกบ้าน ความผูกพันธ์อาจจะน้อยกว่าเรา เค้าเลยคิดว่าให้แม่สอนดีกว่า เราก็ขอบคุณ เค้าที่ให้เกียรติเราในการเลี้ยงลูก ปล่อยให้เราเลี้ยง แนวทางสำหรับในการเลี้ยงเค้าโอเคด้วย

กิก : เคยตี ในขณะนั้นเราตลกเช่นกันนะ เราโมโหมาก เอามือตีแต่เหมือนไปแตะเค้า เรากะไม่ถูกจะตีหนักเบาแค่ไหน เราก็รู้สึกเสียเซลฟ์ แม่เค้าก็หัวเราะเยาะเรา

นิสัยคนละขั้วกันเลย?

แนน : แนนเป็นคนอะไรก้ได้ แต่ว่าพี่กิกจุกจิก เค้าจะวางแพลนไว้หมด เราก็ชินก็ปล่อย

กิก : ผมจะบาลานซ์เวลาหมด เป๊ะกับเรื่องพวกนี้มาก วางเวลาไว้หมดแล้ว

จะมีคนที่ 2?

แนน : ต้องการมีค่ะ เพศไหนก็ได้ แต่อยากได้ลูกชาย ให้เค้าเล่นด้วยกัน กิจกรรมด้วยกัน

กิก : ยังไงก็ได้ครับผม ปล่อยธรรมชาติ ในเวลานี้เริ่มแล้ว

พอธรรมชาติเราต้องทิ้งลูกไว้อีกที่ แล้วพ่อแม่แอบไปอีกที่?

กิก : ใช่ ด้วยสถานการณ์ เลี้ยงลูกกันเอง หากอยู่บ้านเราจะมีภารกิจต้องให้ลูกหลับก่อน ปัจจุบันนี้เริ่มวางแผนละ ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาคนแรกเรามีง่าย เราวางแผนไว้ ด้วยความออกกำลังกายกันทั้งคู่ ก็ได้มาง่าย คนที่ 2 เนี่ย สิ่งที่หายไปคือเวลา สำหรับการออกกำลังกายของแนน คราวนี้ต้องมาจัดเวลาให้เค้าตื่นตี 5 ออกไปวิ่ง กลับมา 7 โมงพอดี ลูกตื่นก็เลี้ยงลูก ผมออกไปฟิตเนส ต้องผลัดกัน

ช่วงเวลาไหน?

กิก : มันคือเรื่องของการตกไข่ ให้เค้าบอกเรา
แนน : จะมีปฏิทินที่ให้เราใส่ข้อมูล เราก็จะมีข้อมูลคร่าวๆ

ติดตามดูรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

กิก ดนัย ประวัติ

ประวัติ กิก ดนัย จารุจินดา

ดนัย จารุจินดา ชื่อเล่น กิก เป็นนักแสดงชาวไทย เกิดวันที่ 5 ต.ค. พ.ศ. 2525 เป็นลูกชายคนโต มีน้องชาย 1 คน เขาเป็นญาติแท้ ๆ ของ เติ้ล ตะวัน จารุจินดา จบการศึกษาระดับอนุบาลที่โรงเรียนจารุวัฒนานุกูล, ระดับประถมที่โรงเรียนซางตาครู้สศึกษา, เข้าเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม และก็ระดับปริญญาตรีจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค)

กิก ดนัย เริ่มเข้าวงการบันเทิงเมื่อปี พ.ศ. 2546 จากการประกวดหนุ่มแฮ็คส์ ปี 2003 และก็ได้เซ็นสัญญากับทีวีซีนที่ป้อนละครให้กับช่อง 3 โดย เริ่มเล่นละครเรื่องเลดี้มหาชน ในบทร้าย ต่อด้วยบทเรียบร้อย ในละครเรื่องตี๋ตระกูลซ่ง

ซึ่งได้เป็นการพิสูจน์ความสามารถ ในการแสดงที่หลากหลายของเขา นอกจากยังเป็นคนชอบออกกำลังกาย เล่นกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอล จนได้เป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย และก็เข้าฟิตเนสอยู่บ่อยๆ และชื่นชอบการเล่นกีตาร์ และจักรยาน, บิ๊กไบค์ รถคลาสสิกเป็นพิเศษ

ชีวิตส่วนตัว สมรสกับสาวนอกแวดวง แพรววนิด กิจถาวรสวัสดิ์ หรือ แนน หลังจากรักกันมายาวนานถึง 11 ปี โดยมีเพื่อนดารานักแสดง ในแวดวงกว่า 30 ชีวิต เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว นำทีมโดยพระเอก เกรท วรินทร โดยงานนี้ คุณประวิทย์ มาลีนนท์ เป็นประธานในพิธี กิกเปิดเผยความประทับใจในตัวเจ้าสาว บอกแนนเป็นทุกอย่าง ทั้งแฟน เพื่อน น้อง พี่ ด้านเจ้าสาวเปิดเผย 11 ปีที่คบกัน มองเห็นความตั้งใจและก็จริงใจของกิกโดยตลอด

สมรักษ์ ตอบแทน เบสท์-ตงตง รักจริงหรือโปรโมต รับเตือนลูกสาวทำอะไรให้พอดี

หัวอกคนเป็นพ่อ ก็ต้องหวงลูกสาวเป็นธรรมดา แล้วก็ยิ่งลูกสาวทั้งสวยและเก่ง คนเป็นพ่อก็ยิ่งต้องห่วง ซึ่ง สมรักษ์ คำสิงห์ ก็ได้ตอบคำถามที่หลายๆคนอยากรู้เรื่องความรักของ เบสท์ รักษ์วนีย์ แล้วก็ ตงตง กฤษกร ว่าทั้งคู่รักกันจริงหรือเพียงโปรโมตในรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ว่า

เมื่อก่อนหวงมาก ใครมาจีบหน่อยสมรักษ์เอาตายเลย เห็นขณะนี้เขาไปทำงาน ถ่ายรูปคู่กับตงตงสุดหล่อ เพราะเหตุใดตอนนี้ยอมล่ะ?

สมรักษ์ คำสิงห์ บอกลูก

เป็นธรรมดาครับ ที่เด็กก้าวเข้าสู่วัยรุ่นผมจะต้องดูแลลูก ผมอย่างดีคอยระวัง

ผมก็เลยจะต้องห่วงลูกเป็นธรรมดา เพราะลูกผมสวย ตอนเด็ก ๆ ห่วงลูกสาวมากครับไปส่งที่โรงเรียน แล้วก็รับกลับบ้าน ซึ่งหลายๆคนก็จะไม่ค่อยกล้ามายุ่งกับลูกผมอยู่แล้ว เนื่องจากเขารู้กันว่า ผมเปิดค่ายมวย แค่เห็นผมเขาก็กลัวกันแล้วครับ

คนสงสัยกันตงตงกับเบสท์รักกันจริง ๆ ไหม ผ่านไหมว่าที่ลูกเขยคนนี้?

ก็ผ่านนะครับ รักกันจริง ๆ ครับ ผมเองก็ส่งเสริมเพราะเขาทั้งคู่ผ่านอะไรด้วยกันมา ก็มากมาย ที่สำคัญตงตงก็เป็นคนดีครับ เขาไม่ได้มาร้ายหรือรังแกอะไรลูกผม ลูกเรารักใครเราก็รักเช่นกันครับ

ตอนนี้มีวี่แววจะสมรสกันบ้างไหม?

มันคือเรื่องของอนาคตครับ ผมก็บอกตงตงเขาก็ทำมาหากิน ทำธุรกิจของเขาขายเสื้อ ผมก็พูดว่า เฮ้ย ตงตง ถ้าเกิดขายเสื้อได้แสนตัวนะ เตรียมขันหมากมาเลย (ยิ้ม)

มีคนพูดว่าเบสท์ทำคอนเทนต์ความรักเพื่อโปรโมตจริงไหม รักกันจริงหรือเปล่า?

ก็รักจริงครับผม ถ้ารักไม่จริงผมเตะก้านคอ (หัวเราะ)

เราเคยเตือนเขาไหม พองามนะ ด้วยเหตุว่ายังไม่ตกไม่แต่ง?

เตือนบ้างครับ บอกให้อยู่ในความพอเหมาะนะลูก (ยิ้ม)

สมรักษ์เปล่าเกาะลูก

สมรักษ์ คำสิงห์ เคลียร์ประเด็นโดนสังคมมองเกาะลูกกิน

จะต้องบอกว่า สมรักษ์ เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิง ที่ทำให้หลายคนแอบอิจฉา ที่เจ้าตัวนั้นมีลูกสาวทั้งสวยแล้วก็เก่งอย่าง เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ที่เมื่อไม่กี่ปีก่อน ได้ปิดหนี้ก้อนใหญ่ ให้กับครอบครัวด้วยการทำรายการยูทูบ จนทำให้ในขณะนี้ครอบครัวลืมตาอ้าปาก มีชีวิตอย่างสุดสบาย

เพราะเหตุนี้ เลยทำให้คนในสังคมบางส่วน มองว่าสมรักสษ์ คำสิงห์ อดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิก เกาะลูกสาวกิน โดยเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจ ในรายการคนดังนั่งเคลียร์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 แล้วก็ตอบถึงเรื่องนี้ว่า

เล่าลูกให้ฟังหน่อยทำไม ถึงน่ารักช่วยพ่อทุกสิ่งทุกอย่าง?

ลูกผมตอนเด็ก ๆ ผมแน่ใจว่าผมสอนดี และก็ได้ลูกทั้ง 2 คน แบบเป็นลูกอภิชาตบุตร ที่จริงแล้วเขาทำงานทุกอย่างมาตั้งแต่เด็กแล้วอย่าง เบสท์อยากได้อะไร ตอนเด็ก ๆ นะ อยากได้เนี่ย หนูจะต้องไปร้องเพลงกับพ่อ ขึ้นเวทีกับพ่อ ถ้าหากไม่งั้นก็ไม่ได้ตังค์ จะต้องกล้า พ่อร้องเพลง ลูกเต้นไป เต้นมา เขาก็ได้ทิปแล้ว

สมมติผมได้ค่าตัว 3 หมื่น เอานี่ค่าตัวหนูนะ แบ่งกัน เขาก็เก็บ เด็กได้ตังค์ เขาก็จะเริ่มเก็บ อยากได้อะไรเขาก็จะเก็บตังค์ซื้อ คือสอนให้กล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้องครับ

ลูกชายก็เช่นเดียวกัน พอยูทูบออกมา ผมก็ไปรู้จัก อ.ประจักษ์ชัย ไหทองคํา โชว์ตัวเจอกันโดยบังเอิญ ยูทูบอะไรผมก็ยังงง เขาบอกเปิดเลยได้รายอย่างนั้นอย่างนี้ เปิดเลยมันเป็นช่องของตนเอง

ผมก็โทรบอกลูก เบสท์เปิดเป็นไหม เบสท์บอกเป็น เปิดให้พ่อหน่อย เบสท์บอกจะทำอะไร ผมก็บอกไปถ่ายน้องก่อนเลย ถ่ายน้องแตะฟุตบอล เพราะซุปเปอร์สตาร์เด็ก ๆ ในเวลานี้ไม่มี มีแต่ซุปเปอร์สตาร์ใหญ่ ปั้นน้องชายให้เป็นซุปเปอร์สตาร์ฟุตบอล

สมรักษ์ไม่ได้โม้

การเป็นยูทูบเบอร์หาเงินได้หลักล้าน มาช่วยพ่อเยอะๆ อย่างงี้จริงไหม?

มันก็ได้จริงครับผม พอได้ครับผม ผมไม่รู้เรื่องเลย (หัวเราะ) มีแต่แม่เขา เวลาผมไม่มีก็จะบอกเบสท์ พ่อขอสักหมื่นหนึ่ง เขาก็ปุ๊บเลย เบสท์พ่อขอสัก 5 หมื่น ปุ๊บเลย

เขาพูดกันพอลูกได้ดิบได้ดีมีเงิน เกาะลูกกินจริงไหม?

คนก็ว่ากันไป อันที่จริงแล้วผมบอกเอง เงินเขาได้เท่าไร ผมไม่รู้ แต่ว่าถ้าเกิดผมไม่มีเนี่ย เบสท์ขอตังค์ค่าน้ำมันรถหน่อยหมื่นหนึ่ง เบสท์พ่อจะใช้เงินตรงนี้ห้าหมื่น เท่านั้นเอง เบสท์สองพันอย่างนี้ แค่นั้นเอง แต่ว่าด้วยความเป็นพ่อ ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ เราก็ไม่เอาครับผม

ประวัติ สมรักษ์ คำสิงห์ เจ้าของฉายา ไม่ได้โม้

ไปรู้จักเจ้าของฉายา “ไม่ได้โม้” หรือ สมรักษ์ อดีตฮีโร่กำปั้น เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์คนแรกของไทย

สมรักษ์ เป็นชาวหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น (ปัจจุบันคือ อำเภอบ้านแฮด) เกิดวันที่ 16 ม.ค. พ.ศ. 2516 ซึ่งเส้นทางมวยไทยของสมรักษ์ เริ่มขึ้นครั้งแรกที่โรงเรียนมหาไถ่ศึกษาโนนสมบูรณ์ เนื่องด้วยสมรักษ์มีพ่อเป็นนักมวยเก่า จึงได้รับการฝึกชกมวยไทยมาตั้งแต่เด็ก ขึ้นสังเวียนมวยหนแรกขณะอายุได้ 7 ปี รวมทั้งได้เดินทางชกตามเวทีงานวัดต่าง ๆ กระทั่งทั่ว จนได้รับการทาบทามจาก ณรงค์ กองณรงค์ หัวหน้าคณะณรงค์ยิมให้มาร่วมค่าย สมรักษ์ก็เลยขอขึ้นชกมวยไทยในชื่อ สมรักษ์ ณรงค์ยิม และก็กลายเป็นนักมวยมีชื่อในแถบจังหวัดขอนแก่น

ด้านชีวิตครอบครัว สมรักษ์แต่งงานกับนางเสาวนีย์ คำสิงห์ ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ทั้งคู่ ยังเรียนหนังสืออยู่ที่ขอนแก่น โดยทั้งคู่มีบุตร 2 คน คนโตเป็นหญิงชื่อ “เบสต์” และคนเล็กเป็นชายชื่อ “โบ๊ท”

โสดแล้วแซ่บ ปันปัน-เต็มฟ้า อยากแต่งงานแล้ว เลิกแฟนเพราะหมดแพสชัน

ปันปัน เต็มฟ้า เริ่มปีใหม่ พร้อมกับรีเฟรชชีวิตใหม่ โดยออกมาโพสต์ภาพชุดว่ายน้ำ พร้อมประกาศว่า “โสด” เลิกกับ แนท-ณัฐพล อัศวเหม แล้ว นอกนั้น ปันปัน เต็มฟ้า กฤษณายุธ ลูกสาวสุดเลิฟของ อดีตร็อกเกอร์สาว แหวน-ฐิติมา ยังแพลนเตรียมคัมแบ็กแวดวงบันเทิงอีกครั้ง โดยเจ้าตัวอัปเดตชีวิตใ ห้ฟังหมดเปลือกว่า

“ในตอนนี้ปันทำงานประจำที่บริษัท ซิตี้คอร์ป ประเทศไทยค่ะ เป็นโบรกเกอร์รับเทรดหุ้นกองทุนต่าง ๆ ทำงานสายนี้มารวม 5 ปีแล้วค่ะ ก็ยังชอบอยู่ แต่ขณะนี้รู้สึกว่าเริ่มเข้าที่มาก และก็เลยต้องการเปิดโอกาสกลับมาแวดวงบันเทิงบ้าง อาจจะมิได้เต็มที่อย่างเดิม จะไม่หายไปเลยค่ะ ถ้านับจากเล่นละครสลักจิต เป็นนางเอกคู่กับพี่หนุ่ม-ศรรามเป็นเรื่องสุดท้าย ปี 2017 ค่ะ ก็นาน 5 ปีแล้วค่ะ”

ปันปัน เต็มฟ้า งาน

เริ่มนึกถึงวงการบันเทิง?

“ค่ะ ก็เริ่มคิดถึง ก่อนจะหายไปเนี่ย คือแต่ก่อนคุณแม่เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ ขับรถให้ เป็นทุกอย่างให้ปันแล้ว พอคุณแม่เสียหนูเลยพักเลยค่ะ รู้สึกหมดแรง สภาพจิตใจมันไม่ได้ด้วย ที่จะกลับมารับงานเหมือนเดิม ก็เลยในเมื่อเราเรียนเศรษฐศาสตร์มา ก็ขอลองไปตามเส้นทางที่เราเรียนสักตั้ง และก็เมื่อมันเป็นงานที่ได้เงินดีมั่นคง ก็เลยลองทำไปให้สุด เท่าที่เราทำได้ก่อน แล้วในเวลานี้ค่อนข้างจะทำได้สบายละ แวดวงบันเทิงเริ่มมีคนถาม ๆ ก็เลยสนใจกลับมา บางทีอาจเป็นงานที่ไม่ใช้เวลามากเกินไป จะได้ไม่ต้องทิ้งงานประจำของเรา”

การกลับมาต้องการเล่นบทอะไรเป็นพิเศษมั้ย?

“เล่นได้หลายรูปแบบนะคะ เพราะเหตุว่าคิดว่าถ้าหากเทียบก่อนที่จะไปเมืองนอกเนี่ย เราเข้าใจชีวิตเยอะ ไม่ว่าจะความรู้สึก เศร้า สูญเสีย ความรัก เรามีประสบการณ์ชีวิตมาหมดแล้ว ก็สามารถเข้าใจได้ทุกบทบาทค่ะ เราเป็นนักแสดงก็ไม่ได้เกี่ยงเรื่องบทอยู่แล้ว เราอยู่ในจุดที่เข้าใจตัวเองมาก ๆ แล้วชีวิตเราต้องการอะไร”

แล้วธุรกิจเสื้อผ้าของเราล่ะ?

“ธุรกิจเสื้อผ้าปันทำตอนช่วงโควิดแล้ว เวิร์กฟรอมโฮมช่วง 2019 แบรนด์ TIANA BRAND และก็แบรนด์ลูก TAI by TIANA แบรนด์แม่มันเริ่มจาก ที่ปันทำงานออฟฟิศ แล้วคิดว่าจะหาชุดแต่งกายทำงานใส่ประชุมสวย ๆ ยาก ถ้าหากจะซื้อร้านทั่วไป ไม่ถูกใจเรา ก็เลยต้องการทำเสื้อผ้า ที่คนทำงานใส่ได้ แล้วต่อไปดินเนอร์ได้ด้วย พอทำไปเรื่อย ๆ มาเจอโควิดก็เลยสร้างแบรนด์ลูกขึ้นมา ไอเดียคือแฟชั่นที่วัยรุ่นขึ้น”

สวยแซ่บ

ล่าสุดโพสต์ไอจีประกาศว่าโสดแล้ว มันอย่างไร ปันปัน เต็มฟ้า?

“ใช่ค่ะ ก็ห่างกันมาครู่หนึ่งแล้วค่ะ หลักเดือนแล้ว ถ้าหากคุยกันก็จะคุยเฉพาะเรื่องงาน เราก็ห่างมาประมาณนึงแล้ว ก็เลยถือโอกาสว่าประกาศเลย ก่อนนี้ก็รู้เฉพาะเพื่อนที่สนิท ๆ แค่นั้นค่ะ ช่วงนี้เราก็ตกลงว่า อยากจะเริ่มต้นใหม่ สตาร์ต เฟรช อยากเป็นตัวเองแล้ว ก็เลยตัดสินใจพูด”

ก่อนจะประกาศ เราสองคนได้เคยคุยกันก่อนมั้ย?

“ได้คุยกันค่ะ ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน มันแก้ไขมา 1-2 รอบก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันดีขึ้น ที่ผ่านมาที่เราเจอกันเนี่ย ก็ทำให้เราทำงานเก่งขึ้น ความรู้สึกของแฟนมันเฟดลง แพสชันมันหมด มันก็ควรให้เราต่างก็ไปมีชีวิตของตน ไม่ใช่เลิกไม่ดีค่ะ เลิกกันด้วยความเข้าใจ”

เวลาที่ตัดสินใจเลิก เสียใจมั้ย ร้องไห้มั้ย?

“มันก็มีค่ะ ปกติอยู่แล้ว ขนาดปันทำงานยุ่ง แต่ว่าพอแน่ใจว่าความรักมันพังลงไป ปันก็ร้องไห้หนักเหมือนกันนะคะ มีเพื่อนมาช่วยซัพพอร์ตเยอะมาก ให้กำลังใจเยอะมาก เลยทำให้ปันเสียใจแป๊บเดียว เพื่อนก็ช่วยกันอุ้มขึ้นมา ก็จะต้องขอบคุณเพื่อน ๆ ด้วยค่ะ”

ปันปันโพสต์

ความรักที่พังไม่เป็นท่าครั้งนี้ เราได้บทเรียนอะไรบ้าง?

“อาจตอนนั้นช่วงคุณแม่เสียด้วยมั้ง ก็เลยโฟกัสอนาคตตนเอง มากเป็นอันดับหนึ่ง ก็เลยไม่ได้ใส่ใจคนรอบข้างสักเท่าไหร่ เนื่องจากเราต้องทำอนาคตตนเองให้มั่นคงให้ได้ แต่ว่าตอนนี้ ทุกอย่างมันลงตัวแล้ว ปันก็จะต้องเรียนรู้ที่จะใช้หัวใจมากขึ้น ในการที่จะรักใครสักคน

เราต้องใช้หัวใจให้มากขึ้น ใช้สมองบ้างแต่ว่าไม่ต้องใช้เยอะ ใช้หัวใจในการคบคน และจะต้องมีความสุขกับปัจจุบัน จะได้ทำให้อีกฝ่ายมีความสุขไปด้วย แล้วก็ต่างก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยากได้คนดี และคล้าย ๆ กัน ไม่อยากได้ใครที่เข้ามาแล้ว ทำให้เครียด คนต่อไปก็ต้องการแต่งงานแล้วอะค่ะ เนื่องจากว่าขณะนี้อายุก็เข้า 28 แล้ว”

ตั้งเป้าไว้มั้ยว่าจะแต่งงานสักอายุเท่าไหร่?

“ก็ 29-30 ปีค่ะ เพราะฉะนั้นก็ต้องสถานีต่อไปแล้วค่ะ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ทันแล้ว เพราะว่าคบผิดไปคนนึงก็จะยืดยาวไปอีกช็อตนึง”

พอประกาศโสดนี่เราแซ่บเลย คนฮือฮากันใหญ่?

“ใช่ (หัวเราะ) ฮือฮาเลย คือหากประกาศว่าโสด แต่เรียบร้อยคนอาจไม่สนใจ จริง ๆ ไม่ใช่ไอเดียปันนะคะ ไอเดียเพื่อนปันค่ะ ที่เป็นพีอาร์อยู่แกรมมี่พูดว่าลงภาพอย่างงี้ไปเลย รับรองคนไปพูดต่อจนรู้กันหมด คือตอนแรกปันบอกพี่เขาขำ ๆ ว่าปันโสดแล้ว หาคนคุยให้หน่อยสิ พี่เขาก็บอกว่าปันก็ประกาศไปเลย แล้วใช้ภาพชุดว่ายน้ำลงไป คนก็อู้หูแบบนี้เลยเหรอ เพื่อนปันที่เขาโสดเหมือนปัน ยังพูดว่าเขาอิจฉาปันมากนะ เป็นดาราพอลงภาพนี้ ไฟสปอตไลต์ส่องมาเยอะมาก แบบนี้โสดไม่นานหรอก”

เกี่ยวมั้ยว่าเพราะโสดเลยกล้าเซ็กซี่ ไม่ต้องเกรงใจใคร?

“นิดนึงค่ะ แต่ก็ไม่ได้เรียกว่าปันพลิกไปเลย เพราะก่อนหน้านั้นตอนที่ปันยังมีแฟนอยู่ เขาก็ไม่ได้บังคับเยอะ ห้ามโป๊นะ แต่พอขณะนี้ก็ยิ่งสบายขึ้นค่ะ สบายใจอย่างไหน พอใจแบบไหนก็ทำไป หากเรามีความสุข”.

"แอฟ-ทักษอร" แฮปปี้ "หมอช้าง" ทักปีนี้ดวงความรักปัง "น้องปีใหม่" บอกแม่มีหนุ่มจีบ

ขึ้นปีใหม่มาพร้อมกับโอกาสใหม่ ๆ งานนี้ แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ถูก หมอช้าง-ทศพร ดูดวงในปีนี้ว่า ดวงความรักจะปัง! เมื่อเจอแม่แอฟ ควงลูกสาวสุดเลิฟ น้องปีใหม่ มาร่วมงานเปิดคอลเลกชันใหม่ JASPAL X Oral Kiely ที่ JASPAL Flagship store ชั้นเอ็ม ไอคอนสยาม เลยได้อัปเดตเรื่องความรัก แต่เอ๊ะ ไหง คุณแม่ตอบทางคุณลูกแฉ เอ๊ย ตอบอีกทาง (ฮา)

หมอดูทักว่าปีนี้ดวงความรักพุ่งแรง?

“ก็ดีใจค่ะ ขอมีดี ๆ บ้างค่ะ คือช่วงนี้ถ้าหากมีเรื่องอะไรดี จะเป็นการงาน การเงิน ความรัก เอาหมดเลยค่ะ ขอน้อมรับหมดเลย เพราะก่อนหน้านี้ชงมา ตอนชงก็ตื่นเต้นนิดหนึ่ง อันนี้ก็ผ่านพ้นมาได้ จากนี้ไม่ว่าจะด้านไหน ถ้าเป็นเรื่องดี ๆ ก็น้อมรับรอเลยค่ะ”

แอฟ ทักษอร สวยออร่า

แอฟ ทักษอร ตอนนี้มีเข้ามาให้เลือกเยอะมั้ย?

“อย่าเรียกว่ามาให้เลือกเลยค่ะ บางทีอาจเป็นเขาเลือกเราก็ได้ ถ้าติดต่องานคือเข้ามาเยอะค่ะ”

ถึงปัจจุบันนี้น้องปีใหม่พูดแทรกขึ้นว่า

“เยอะมากๆๆๆๆๆ คุณแม่มีคนคุยแล้ว มีเยอะมากเลย มีเป็นสิบ ๆ คนเลย ยังไม่เคยเจอเนื่องจากหม่ามี้แอบ หม่ามี้แอบทุกคราวเลยแต่ว่าปีใหม่ทราบแล้ว มีมากกว่าสิบอีก”

แล้วแม่แอฟ ว่าไง?

“ต้องการที่จะให้เป็นเรื่องจริงเลย (หัวเราะ)”

แล้วหันไปถามย้ำกับคุณลูก

“มีมากกว่าสิบเลยนะ?”

ปีใหม่ก็ย้ำว่า “ช่ายค่ะ อาจจะมีคนเก่าด้วย”

แอฟ หัวเราะแล้วกล่าวต่อว่า

“ไม่ต้องการทำให้ลูกผิดหวังเลยค่ะ เกินสิบคนเลยเหรอ เดี๋ยวแม่จะพยายามนะ”

แล้วหันไปถามลูกสาว

“มีได้เหรอ ให้มีนะ?”

ปีใหม่ก็ตอบ “ให้มี”

แม่แอฟ เลยถามย้ำลูกสาว “ไปเดตได้นะ นี่ใกล้วาเลนไทน์แล้ว”

ปีใหม่ก็ตอบว่า “ถ้าจะไปเดตต้องบอกก่อนค่ะ ว่าใคร แล้วหนูจะอนุญาต ถ้าหากเป็นคนไม่ดี ปีใหม่ก็จะไล่เขาออกจากบ้าน” ก่อนจะย้ำว่า ตนไม่หวงคุณแม่

มีคนคุยกันจริงจังบ้างมั้ย?

“จริง ๆ ก็คุยกับคนที่ร่วมงานกัน เจอกันอยู่ในวงการ”

ปีใหม่ แทรกขึ้นมาอีก “ไม่จริงค่ะ หม่ามี้โกหก มีเบอร์โทร.แปลกๆ”

หมอดูกล่าวว่าดวงจะมีหนุ่มลูกครึ่ง?

“ยังไม่มีนะคะ”

แต่ว่าปีใหม่บอกอีกทาง “มีค่ะ เขาโกหกค่ะ แต่ส่วนมากจะเป็นคนไทย”

ถึงขั้นแม่แอฟหลุดขำรีบเบรกลูกสาว “ใจเย็น ๆ ลูก”

หมายความว่าในช่วงเวลานี้ขอเลือกก่อน?

“อย่าว่าขอเลือกเลยค่ะ จริง ๆ ก็ใช้ชีวิตธรรมดานี่แหละ”

พอถาม น้องปีใหม่ ว่าเชียร์คนไหนเป็นพิเศษมั้ย?

น้องปีใหม่ ก็บอกว่า “ก็ไม่มีนะคะ ให้เขาเลือกเอง แต่ถ้าเกิดเป็นคนไม่ดีก็ไล่ออกไป คือหม่ามี้เลือกมา 20 คนใช่มั้ย แล้วเดี๋ยวปีใหม่จะคัดให้ ถ้าไม่ดีทั้ง 20 ก็หายไปทั้ง 20 เลย”

ถามน้องปีใหม่ต่อว่า แล้วอยากได้แบบไหน?

ปีใหม่ ก็ตอบว่า “ใจดี และก็ในตอนที่หม่ามี้ไม่อยู่บ้าน ปีใหม่อยากได้พ่อที่ทำทุกอย่างให้ปีใหม่ ปีใหม่จะไปไหนเขาก็ให้ปีใหม่ไป”

แอฟ ทักษอร ปีใหม่

อย่างงี้ถ้าหากใครเข้ามาต้องพามาเจอน้องปีใหม่ก่อนมั้ย?

แอฟยังไม่ทันตอบ ปีใหม่ก็ตอบแทน “มีค่ะ” ถึงกับขนาดแอฟพูดพลางหัวเราะพลาง “ในตอนนี้แม่เริ่มงงแล้ว อันไหนเรื่องจริงอันไหนเรื่องหลอก ปีใหม่ใจเย็น ๆ ก่อน เขาบอกว่าปีนี้ แต่ว่านี่มันพึ่งผ่านมา 10 วันเอง”

น้องปีใหม่ตอบคุณแม่ว่า “10 วันมันก็ได้ 20 คนได้นะ”

แอฟหันไปบอกลูกสาวว่า “มันยากนะปี แม่อยู่มาจะอายุ 40 ยังมีมาไม่ถึง 20 คนเลย แล้ว 10 กว่าวันนี้เราจะได้ได้ยังไง”

ซึ่งปีใหม่ก็ยังยืนยัน “ก็ได้ เพราะหม่ามี้ไม่เคยลองไง”

แอฟเลยบอก “จ้ะๆเดี๋ยวจะเปิดใจนะจ๊ะ”

แอฟกล่าวว่า “นี่ลูกบิลต์มากเลยอะ ทุกคนเป็นพยานนะคะ ถึงเวลาที่แม่มีจริง ๆ หนูต้องยอมนะ”

ปีใหม่ตอบคุณแม่ว่า “ปีใหม่จะไม่ยอมถ้าเกิดเขาเป็นคนไม่ดี”

แม่แอฟก็ตอบว่า “ถ้าคนไม่ดีแม่ก็ไม่เอาอยู่แล้ว”

หมอดูบอกว่าถ้าหากมีแฟนแล้วเปิดดวงจะปังนะ?

แอฟตอบ “ปัญหาในเวลานี้คือให้มีก่อน มีดี ๆ แล้วเดี๋ยวเปิด”

จะต้องผ่านปีใหม่ก่อนมั้ย?

ปีใหม่ตอบเองว่า “ต้องมีเป็นสิบๆด่านเลย”

แล้วสเปกคืออย่างไร?

“สเปกก็คือจะต้องรับมือคนนี้ไหวแค่นั้นล่ะค่ะ”

เรียกว่าไม่รีบร้อนอะไร ขอช้าแต่ชัวร์?

“ก็มิได้เร็วไม่ได้ช้าอะไรอะค่ะ ก็คิดว่าใช้ชีวิตไปตามธรรมดา เอาตรงๆพอ อ.ช้างทักมันก็คือความสุขอย่างนึงเพียงแค่นั้นว่า อย่างน้อยปีนี้เรา จะมีเรื่องราวดี ๆ เข้ามา จะดีด้านไหนก็ดีใจหมด ก็รออะไรดี ๆ เข้ามา งาน เงิน ความรัก”

ขอยืนยันตอนนี้ยังโสดสนิทมั้ย?

“ในตอนนี้โสดสนิทค่ะ”.

ฮือฮา โก้-วศิน โผล่ช่อง7 เจอคู่จิ้น พิ้งค์พลอย ลุ้นรีเทิร์น หลายช่องรุมจีบ

กลายเป็นเรื่องฮือฮา เมื่อได้เห็น โก้ วศิน อัศวนฤนาท ที่ถูกช่อง 7HD มีคำสั่งยุติสัญญาไปเมื่อท้ายปีก่อนหน้านี้ จู่ ๆ ก็โผล่ไปวิกหมอชิตเมื่อตอนปีใหม่ที่ผ่านมา แล้วก็ยังได้ออกรายการสด ร่วมกับนางเอกคู่จิ้น พิ้งค์พลอย-ปภาวดี อีกตะหาก ทำให้แฟน ๆ แอบลุ้นว่า โก้ จะคัมแบ็กช่อง 7HD รึเปล่า ล่าสุดหนุ่ม โก้ ได้เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว

โก้ วศิน ยิ้ม

หลายคนสงสัยเรื่องที่จู่ ๆ โก้ก็ไปโผล่ที่ช่อง 7?

“ประมาณ 2-3 วันก่อน ผมถือโอกาสเข้าไปสวัสดีวันปีใหม่พี่ ๆ ทีมงานทีมข่าว ผู้ใหญ่ทุกคนที่ช่อง เพื่อยืนยันว่าที่จริงแล้ว เราก็จากกันด้วยดี ยังโอเคนะสวยงามนะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร และก็ทุกคนก็ให้การต้อนรับเราอย่างดีเยี่ยม แฮปปี้มาก”

ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ใหญ่อย่างไรบ้าง?

“ผมไปถึงเขาก็ถามเป็นยังไงบ้าง เขาก็เล่าให้เราฟังว่า เขาก็รับทราบเรื่องราวมานะว่า มันเป็นอย่างนี้ ๆ เขาก็สอนเราด้วย และก็อธิบายว่าทุกการเปลี่ยนแปลง มันจะต้องเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ขอให้ไปพบอะไรดี ๆ เขาก็อวยพรให้เราอย่างดีครับ”

พอมีภาพออกมาแฟนละครก็คิดว่าหรือเราจะคัมแบ็ก?

“ผมไปถึงที่ช่องก็น่ารักมากครับ ให้ทางทีมโซเชียลมาถ่าย ลงทางช่องทางต่าง ๆ ของช่อง แถมยังให้ผมไปออกในรายการสด ของช่องด้วยตอนนั้นพอดี ผมก็ฝากแฟน ๆ ทุกคนติดตามละครของโก้นะครับ แต่เป็นละครรีรันนะครับ (หัวเราะ) ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ได้มีโอกาสไปถ่ายละครเรื่องใหม่เร็ว ๆ นี้ แต่ถ้าเกิดมีโอกาสก็ต้องการ ที่จะไปเช่นกันครับ”

ช่วงนี้คนเข้าใจผิดว่าเรากลับมามีโลโก้ช่อง 7?

“จะอย่างไรก็ขอบคุณครับ เป็นเรื่องที่ดีหมด ไม่ว่าเราจะโลโก้ไหน เพียงเรายังอยู่ในสายตาของแฟนคลับ ก็ดีแล้ว และจะมีแฟน ๆ ที่เป็นคู่จิ้นเขาก็แฮปปี้ ด้วยเหตุว่าในระหว่างที่เข้าไปวันก่อนก็ได้เจอน้องพิ้งค์พลอย ด้วยจังหวะมันพอดีมาก เราได้เจอกัน ถ่ายคลิปถ่ายรูปเข้ารายการสดด้วยกัน จริง ๆ เราก็คิดถึงเป็นห่วง อยากจะถามสารทุกข์สุกดิบเขาอยู่ตลอดเวลา”

ถ้าเกิดวันหนึ่งผู้ใหญ่ช่อง 7 จะชวนไปร่วมแจมละครนิด ๆ หน่อย ๆ โอเคมั้ย?

“ยินดีครับ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”

ตอนที่มีข่าวกับช่อง 7 น้องพิ้งค์พลอย ก็ให้กำลังใจเราด้วยใช่มั้ย?

“ใช่ครับผม น้องน่ารักมาก คิดถึงครอบครัวเขาด้วยนะ เพราะเวลาที่เราไปกองละคร เราก็จะได้พบทั้งพ่อกับแม่เขา บางครั้งก็ได้เจอน้องสาว ก็คิดถึงทั้งครอบครัวเลย ก็อยากที่จะให้น้องตั้งใจทำงาน ปีนี้ขอให้ปัง ๆ มีอนาคตที่สดใส”

โก้ วศิน ละครใหม่

โก้ วศิน จะถือเป็นการปิดตำนานคู่จิ้น โก้กับพิ้งค์พลอยรึเปล่า?

“ก็ไม่ได้ปิดตำนานอะไรหรอกครับ เรายังมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน เป็นห่วงแล้วก็หวังดีต่อกันอยู่เรื่อย ๆ บางทีอาจเพียงไม่ได้เจอในหน้าจอ แต่นอกจากนั้นเราก็อาจจะยังได้เจอกัน ต้องการที่จะนัดเจอนัดกินข้าวตลอดเวลา ก็เจอในโซเชียลได้”

แฟนช่อง 7 เสียดายมากเลยคู่จิ้น โก้&พิ้งค์พลอย?

“ที่จริงแล้วน้องพิ้งค์พลอยเขาเคมีดี เล่นกับคนไหนเขาก็ดีอยู่แล้ว เข้าได้ทุกคนแหละ ก็อยากให้ติดตามผลงานของเขาถัดไป”

พอเป็นนักแสดงอิสระแล้วเป็นยังไงบ้าง?

“ก็ได้เจออะไรใหม่ ๆ บรรยากาศใหม่ ๆ ผู้คนใหม่ ๆ สถานที่ใหม่ ๆ ครับผม แฮปปี้และก็สนุกมาก รวมทั้งเป็นความท้าทาย ที่ได้ร่วมงานกับคนที่เติบโต มาคนละที่กับเรา ซึ่งเราก็ต้องตั้งใจทำในพาร์ตของเราเต็มที่ เราเองก็ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เป็นอะไรที่ดีครับผม”

พอเป็นอิสระปุ๊บ ก็มีมาจีบรัว ๆ เลย?

“ช่วงนี้ก็มี 2-3 เรื่องครับผม ก็ทยอย ๆ มาเรื่อย ๆ แล้วยังรับได้อีกครับ จริง ๆ ก็มีคนติดต่อมาพอสมควรเหมือนกัน แต่ว่าเราก็จะต้องโฟกัสทีละเรื่อง เพราะเหตุว่าอยากให้ผลงานมันออกมาดีจริง ๆ จะได้พอย้อนไปดูแล้ว ไม่เสียใจทีหลัง คำว่าเนื้อหอมผมว่า ก็ไม่ถึงกับขนาดนั้นหรอก ทุกคนก็เหมือนกันแหละ”

สำหรับ โก้-วศิน เจ้าของฉายา “พระเอกปากแดง” เซ็นสัญญาเป็นนักแสดง ในสังกัดช่อง 7HD รวม 2 รอบ รวมแล้ว 8 ปี ซึ่งจะหมดสัญญาในเดือน พฤศจิกายน65 ช่วงนั้น โก้ ไปบันทึกเทปรายการ “ร้องข้ามกำแพง” ทางช่องเวิร์คพอยท์ โดยตกลงกันไว้ว่า จะออกอากาศหลังหมดสัญญาแล้ว แต่เกิดผิดพลาดทางเทคนิคเทปที่ โก้ ไปร้องเพลงดังกล่าว ดันถูกนำมาออกอากาศก่อนหมดสัญญา ก็เลยทำให้ถูกช่อง 7HD

มีคำสั่งยุติสัญญาตอนวันที่ 14 เดือนตุลาคม 65 โดยละครเรื่องสุดท้ายของ โก้ ทางช่อง 7HD ก็คือเรื่อง “ปางเสน่หา” และก็ผลงานการแสดงเรื่องแรก หลังออกจากช่อง 7HD ก็คือ “เจ้าสาวในสายลม” ของค่ายเช้นจ์ 2561 ทางช่องวัน 31 และตามมาด้วยเรื่อง “ดวงสมพงษ์” ในซีรีส์ “CLUB FRIDAY THE SERIES 14 LOVE&BELIEF” ที่พึ่งทำพิธีบวงสรวงไปวันก่อน ทั้งนี้ โก้ ได้ขึ้นเป็นพระเอกละครหลังข่าวเต็มตัว.

บิ๊กเอ็ม เสียใจแต่ก็น้อมรับ เป็นอิสระไม่ทันไรช่องอื่นทาบ สัจจะในชุมโจร อาถรรพณ์แรง

คดีมหากาพย์หวยทิพย์ บานปลายไปกันใหญ่ หลายฝ่ายร้อนตัวออกมา แถลงข่าวแฉกันไปมา ยังไม่ทราบว่าสรุปแล้วจะจบยังไง แต่ว่าที่แน่นอน ด้านพระเอกหนุ่ม บิ๊กเอ็ม-กฤตฤทธิ์ บุตรพรม ถูกหวยไปเรียบร้อย เมื่อช่อง 7HD ต้นสังกัดลงดาบประกาศยุติสัญญา การเป็นนักแสดงในสังกัดของ บิ๊กเอ็ม โดยให้มีผลโดยทันทีซะด้วย เรียกว่าเป็นการลงโทษที่เด็ดขาดจริง ๆ

สำหรับ บิ๊กเอ็ม เซ็นสัญญากับช่อง 7 มาตั้งแต่ปี 56 ประเดิมด้วยเป็นนักแสดงรับเชิญในละครเรื่อง “บอดี้การ์ดสาว” ปีถัดมาก็ได้เล่นละครเรื่อง “คีตโลกา” ด้วยบทตัวร้าย แต่จากนั้นชีวิตก็พลิกกลับมา เล่นเป็นพระเอกในเรื่อง “จับกัง” หลังจากนั้นก็กลายเป็นพระเอกของช่อง 7 มาตลอด จนสุดท้ายจู่ ๆ ก็ถูกขอให้เล่นละครเรื่อง “สัจจะในชุมโจร” เสียบแทน อ๋อม-อรรคพันธ์

บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ ช่อง7

ซึ่ง บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ ก็เข้ามาสวมบทบาทจอมโจรขมังเวทย์แทนใน 4 ตอนสุดท้าย

โดยบทดังกล่าวกล่าวได้ว่าอาถรรพณ์แรงทีเดียว เพราะ อ๋อม ก็เล่นได้ไม่จบ เพราะว่าจู่ ๆ ก็เกิดเจ็บป่วยกะทันหัน เข้าโรงพยาบาลไปจนกระทั่งแสดงต่อไม่ได้

ในเวลาที่ บิ๊กเอ็ม ที่มาแสดงแทนจู่ ๆ ก็พบมรสุมชีวิตจากพิษหวยทิพย์ จนกระทั่งถูกยุติสัญญาไป ทั้งที่ บิ๊กเอ็ม ยังเหลือสัญญากับช่อง 7 อยู่อีกราว 1 ปี ก่อนหน้าที่ช่อง 7HD จะลงดาบ บิ๊กเอ็ม ก็เหมือนจะรู้ชะตากรรมล่วงหน้า จึงได้พยายามผ่อนหนัก ให้เป็นเบาด้วยการออกไปร่วมแถลงข่าว กับ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล เปิดเผยเรื่องราวข้อเท็จจริง

โดยกล่าวขอโทษประชาชน รวมทั้งบอกว่าตนถูกหลอกใช้แค่นั้น กลายเป็นเหยื่อ รวมทั้งยังกล่าวขอโทษ อย่างไรก็แล้วแต่ความเคร่งเครียดจากการที่รอบทลงโทษ จากต้นสังกัดอยู่นั้น บิ๊กเอ็ม ถึงกับไม่ได้นอนไม่หลับไปช่วงนึง ก่อนจะมีโพสต์สตอรีว่าพึ่งลุกขึ้น มากินอาหารมื้อแรกได้ แล้วจากนั้นก็ได้โพสต์อีกว่า “หวังว่าจะมีบางสิ่งที่จะสามารถช่วยฉันให้ผ่านช่วงเวลาที่มืดมนนี้ไปได้”

ถึงกระนั้นก็ไม่มีปาฏิหาริย์ใดช่วย บิ๊กเอ็ม ได้ เนื่องจากถัดมาช่อง 7 ก็มีประกาศจบสัญญา ทำให้พ้นสภาพดาราในสังกัด เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 66 รวมแล้ว บิ๊กเอ็ม เป็นนักแสดงอยู่ใต้ชายคาของช่อง 7 มานานกว่า 9 ปี มีละครทั้งสิ้น 16 เรื่อง ซึ่งก็มีละครหลายเรื่อง ที่สร้างความสำเร็จ ให้วิกหมอชิตมากมาย โดยเฉพาะเรื่อง “ร้อยป่า” ที่ทำเรตติ้งตอนสุดท้าย 10.7 สูงเป็นอันดับ 1 ของปี 2563

บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ โพสต์

ภายหลังจากถูกช่อง 7HD บอกเลิกสัญญา บิ๊กเอ็ม

ก็ออกมาแสดงทีท่าโดยโพสต์ว่า “ตลอดเวลา 9 ปีที่ผ่านมา คือช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดในชีวิตผม ขอบคุณสำหรับทุกโอกาสครับ” ถ้าหากถอดออกมาเป็นคำพูด น้ำเสียงก็คงเต็มไปด้วยความสั่นเครือ โดยโพสต์นี้ ได้มีเพื่อนนักแสดงช่อง 7HD ได้เข้ามาคอมเมนต์ ให้กำลังใจแก่ บิ๊กเอ็ม เยอะมาก บอกให้เห็นถึงมิตรภาพ และก็ความมีน้ำใจ

ในฐานะเพื่อน พี่-น้อง ที่เคยร่วมงานกันมาตลอดระยะเวลา 9 ปี ซึ่งล่าสุด บิ๊กเอ็ม ก็ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้าที่ผ่านมาก็ได้คุยกับทางช่อง แล้วก็พอจะทราบผลลัพธ์เรื่องบทลงโทษแล้ว ถามเสียใจมั้ย ก็ต้องเสียใจอยู่แล้ว แต่เมื่อเป็นกฎของช่อง ตนก็ต้องทำใจแล้วก็สารภาพมันเท่านั้น

อย่างไรก็แล้วแต่ เมื่อทางหนึ่งถูกปิด ก็มีอีกทางหนึ่งถูกเปิดเช่นเดียวกัน ดังกรณีของพระเอกปากแดง โก้-วศิน อัศวนฤนาท ที่ไปออกรายการ ของช่องเวิร์คพอยท์ รวมทั้งถูกช่อง 7HD ประกาศยุติสัญญาไปก่อนหน้าที่ผ่านมาไม่นาน ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีงานแสดงรุมแย่งตัว ทั้งยังละครของช่องอมรินทร์ และก็ของค่ายเช้นจ์ฯ ที่เพิ่งจะบวงสรวงไปวันก่อน

ซึ่งกรณีของ บิ๊กเอ็ม เจ้าตัวก็สารภาพว่าทันทีที่ช่อง 7 ประกาศยุติสัญญา ไม่ทันไรก็ได้รับการติดต่อ จากค่ายละครช่องอื่นแล้ว ซึ่งในยุคนี้ถือเป็นสวรรค์ของนักแสดงอิสระ เพราะมีหลายช่องหลายค่ายมากมายให้เลือก นับว่าเป็นช่องทางใหม่ ๆ แล้วก็เป็นความท้าทาย ที่จะทำให้ได้พัฒนาตนเอง ซึ่งก็คาดว่าแฟน ๆ ของ บิ๊กเอ็ม ก็คงจะได้เห็นผลงานใหม่ ของเจ้าตัวอีกครั้ง ในเวลาไม่นานต่อจากนี้

บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ เครียด

การจมกับความผิดพลาด บิ๊กเอ็ม ตัดพ้ออีกหลังเจอช่องปลดจากสังกัด

“บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์” ดาราดัง เคลื่อนไหวหลังพบช่องปลดจากสังกัด เซ่นปมหวยทิพย์ ทำเอาผู้คนจำนวนมากพากันสนใจ และก็มอบกำลังใจล้นหลาม

กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ เพียงชั่วข้ามคืน หลังล่าสุดนักแสดงหนุ่ม บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ บุตรพรม ได้ออกมายอมรับว่าถูกไหว้วานโพสต์ถูกรางวัลที่ 1 ทั้งที่มิได้ถูกรางวัลจริง ๆ ทำเอาแฟนคลับ โจมตีเจ้าของค่ายลอตเตอรี่ดังอย่างมากมาย จากนั้นไม่นาน ต้นสังกัดของหนุ่มบิ๊กเอ็ม ก็ได้ใช้สิทธิจบสัญญา การเป็นนักแสดง ในสังกัดของหนุ่มบิ๊กเอ็ม ทำเอาหลายคนตกใจ แล้วก็พากันมอบกำลังใจให้เขาอย่างล้นหลาม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ในอินสตาแกรมของหนุ่มบิ๊กเอ็ม ก็ได้มีการเคลื่อนไหว หลังจากหายไปนานตั้งแต่โพสต์รูปจดหมาย ถูกถอดออกจากสังกัดนั่นเอง โดยหนุ่มบิ๊กเอ็มอัพเดทสตอรี่ ที่มีข้อความว่า “การจมอยู่ในกองความผิดพลาดของตนเอง ในอดีตจะยิ่งถ่วงชีวิตให้หนัก และก้าวต่อไปลำบาก คุณจึงจะต้องให้อภัยตนเอง และเริ่มเก็บสะสมความทรงจำกันใหม่” พอมีการอัพเดทไป คนจำนวนไม่น้อยก็ไม่พลาดมาแคปรูป และก็เอามาโพสต์ให้กำลังใจ หนุ่มบิ๊กเอ็มกันอย่างล้นหลาม