Prod. by NINO เส้นทางชีวิตจากก้นเหวสู่ โปรดิวเซอร์พันล้านวิว
Highlight NINO
เป็นโปรดิวเซอร์ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเพลงดังมากมาย ทั้งเพลง “ทน” ที่ดังไกลถึงชาร์ตบิลบอร์ต และ เพลง “พักก่อน” ของแร็ปเปอร์สาว MILLI
แม้จะประสบผลสำเร็จอย่างมากในฐานะโปรดิวเซอร์ แต่ก็เคยผ่านช่วงเวลาที่เหมือนทางตันของชีวิต และก็ ในวันที่ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเหลือ ทางเดียวที่จะไปต่อได้ คือ การยืนหยัดด้วยตัวเอง
สิ่งสำคัญสำหรับการทำเพลงให้ประสบผลสำเร็จเป็นเนื้อหาที่จะเสนอ ที่จะส่งออกไปให้คนเข้าใจ และ ฟังแล้วติดหู
ทุกความสำเร็จที่ได้รับ ไม่เคยมีความรู้สึกว่า ตนเองมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพเลย เขา คิดเพียงแค่ว่า วันนี้ สามารถช่วยเหลือครอบครัวได้แล้วเท่านั้น
ถ้าถามว่า รู้จัก “NINO – เกริก ชาญกว้าง” ไหม หลายคน คงขมวดคิ้ว ครุ่นคิดหนักว่า ผู้ชายคนนี้ เป็นใคร แล้วจะไปรู้จักเขาได้อย่างไร
แต่ถ้าเกิดถามว่า รู้จักเพลง “ทน” เพลงไทยที่ดังไกลถึงชาร์ตบิลบอร์ด และก็ เพลง “พักก่อน” เพลงแร็ปสุดเฟี้ยวของแร็ปเปอร์สาว MILLI บ้างหรือไม่ เชื่อว่า ทุกคน อาจพยักหน้า แล้วก็ คงเคยได้ฟังเพลงพวกนี้ผ่านหูมาบ้าง เพลงดังพวกนี้ ถูกสร้างสรรค์โดยในฐานะโปรดิวเซอร์
แล้วก็อีกหลายร้อยเพลง และ ส่วนหนึ่งของผลงานมากมายของเขา ยังกลายเป็นเพลงไวรัลในโลกออนไลน์ จนทำให้ได้รับฉายาว่า “โปรดิวเซอร์พันล้านวิว” แต่บนเส้นทางสู่ความสำเร็จนั้น จะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย แต่ว่าในตอนที่แสนท้าทาย และ ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ วิธีเดียวที่จะผ่านพ้นมันไปได้ คือ “ลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเอง”
สู้โชคชะตาด้วยสองมือของตนเอง
“ครอบครัวผม ก็มีฐานะปานกลาง พอมีพอกิน แล้วภายหลังได้ไปเรียนที่แคนาดา ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด จนกระทั่งขั้นที่ครอบครัว 4 คน ต้องอยู่ในรถคันเดียว รถที่อยู่ก็ไม่ใช่รถยนต์ของตัวเอง แต่เป็นรถของคุณตาที่เรายืมมา และจากนั้นก็มาอยู่ในห้องเล็กๆ มีห้องน้ำห้องเดียว” โปรดิวเซอร์ เล่าย้อนไป
จากเด็กหนุ่มผู้ได้ทุนไปเรียนสาขาภาพยนตร์ ไกลถึงประเทศแคนาดา แต่ว่าโชคชะตาก็ทำให้จะต้องเผชิญหน้ากับ “ปัญหา” ที่ใหญ่กว่าตนเองจะปรับปรุงได้ เขา เล่าว่า เหมือนอนาคตที่เคยฝันไว้พังทลายลงมา รวมทั้ง เขาเองก็คิดไม่ออกว่า ต้องเดินไปทางไหน คล้ายกับว่า ทุกอย่างเป็นทางตัน
และไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลย แต่ “ในวันที่พวกเราอยู่ก้นเหว เรา มีทางเดียวที่จะไปต่อได้ คือ พวกเรา ต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง”
“ผมเป็นนักสู้ ผมก็ต้องหาทางที่จะเอาชีวิตรอด แรงบันดาลใจสำคัญๆเลยก็เป็นครอบครัว คนที่อยู่ในครอบครัวพวกเรานี่แหละ ที่เป็นแรงผลักดันให้เรามีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป คือผมเป็นคนใฝ่ฝันสูง ต้องการมีอะไรเป็นของตนเอง แล้วถ้าหากเราไม่ทำ มันก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
แต่ว่าถ้าหากเราจะไปถึงที่ตรงนั้น เรา ควรมีทีมเวิร์กที่ดี ถ้าหากไม่มีทีมเวิร์กที่ดี กำลังใจก็ไม่มี มันก็บางครั้งอาจจะโดดเดี่ยว” โปรดิวเซอร์ กล่าว
จุดเริ่มต้นอาชีพ “โปรดิวเซอร์” ของ NINO
“พอเราเจอทางตัน พวกเรา ก็พยายามจะหาทางออกว่า สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดในตอนนั้นคืออะไร ในช่วงเวลานั้น มันก็มีนักบอล นักมวย เกมเมอร์ แล้วหลังจากนั้นก็ดนตรี ซึ่งผมว่า ผมเก่งดนตรีมากที่สุด” โปรดิวเซอร์ บอก
เมื่อค้นพบว่า ดนตรี เป็นสิ่งที่ตัวเองทำได้ดีที่สุด บวกกับเสียงชื่นชมจากคนที่อยู่รอบข้าง ที่คอยส่งเสริม และก็ให้กำลังใจ
จึงทำให้เริ่มสนใจอาชีพ “โปรดิวเซอร์” ซึ่งเป็นอาชีพที่ยังไม่ค่อยมีคนทำมากนัก ตอนนั้น และ เรียนรู้การกดบีทจาก YouTube
“โปรดิวเซอร์ ก็คือ คนที่มองดูภาพรวมของเพลง คล้ายๆกับผู้กำกับ เป็นคนที่ดูตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเพลง เป็นคนควบคุมโปรเจ็กต์ แล้วก็ช่วยทำให้ศิลปินตัดสินใจได้ดีขึ้น คือเป็นเหมือนผู้ช่วยศิลปินอีกครั้ง” โปรดิวเซอร์ อธิบาย
ความสำเร็จของโปรดิวเซอร์ NINO
ภายหลังหันมาเอาดีทางด้านดนตรี ชื่อของ NINO ก็เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ จนได้รับฉายา “โปรดิวเซอร์พันล้านวิว” จากผลงานเพลงที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นร่วมกับศิลปินมากหน้าหลายตา ทั้งเพลง “พักก่อน” ของ MILLI, เพลง “เป็นไรไหม” ของ LAZYLOXY x OG-ANIC, เพลง “Mirror Mirror” ของ F.HERO MILLI
รวมทั้ง ชางมิน จากวง Stray Kids วงไอดอลโด่งดังจากประเทศเกาหลีใต้ หรือ เพลง “4EVER” จาก 4EVE เกิร์ลกรุ๊ปของไทย นอกนั้น ยังมีเพลงอื่นๆ อีกมากมาย ที่เป็นผลงานของ NINO ดูได้จากคำว่า “Prod. by NINO” ที่กลายเป็นคำการันตีประสิทธิภาพของงานเพลง
“แรกๆที่เริ่มมีคนรู้จักผมเพิ่มมากขึ้น บน BTS หรือ นั่งวินมอเตอร์ไซค์ และมีพี่วินอีกคน หรือ แกร็บ กล่าวว่า “นี่ NINO หรือเปล่า” กลางสี่แยกเลย ก็ตลกดี พี่รู้จักผมด้วยเหรอ ก็เริ่มมีคนมาขอถ่ายรูป
และจากนั้นก็ดีใจที่มีคนรู้จักอาชีพโปรดิวเซอร์ของพวกเราด้วย เพราะเหตุว่า น้อยคนที่จะทำอาชีพนี้ แล้วส่วนมากก็จะรู้จักแต่เบื้องหน้า” โปรดิวเซอร์ กล่าว
เมื่อถามหาเทคนิคการทำเพลงให้ประสบความสำเร็จ เขา บอกว่า ไม่มีเทคนิค แต่สิ่งสำคัญคือเนื้อหาที่จะเสนอ ที่จะส่งออกไปให้คนเข้าใจ รวมทั้ง ฟังแล้วติดหู
“พวกเราจริงใจกับสิ่งที่พวกเราจะนำเสนอออกไปมากน้อยแค่ไหน ที่เหลือก็เป็นคาแรกเตอร์ ผมว่า ความเป็นธรรมชาติ คือ มนุษย์เรามีเซ้นส์ที่จะเดาออกได้ว่า นี่ไม่ธรรมชาติ แต่ว่าอันนี้รู้สึกธรรมชาติว่ะ บางคน มีความคิดว่า พวกผมทำเพลงทน มานั่งแกะนั่งหั่นเพลงทนว่า ทำยังไงถึงจะฮิต
แต่ว่าความจริง คือ ทำไม่ถึงชั่วโมง เรา ยังไม่รู้เลยว่า มันดังได้ยังไง ผมว่า อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ คือ เรา สื่อสารยังไง แล้วคนฟังเขาเข้าใจกับพวกเรามากน้อยแค่ไหน” โปรดิวเซอร์ ชี้
ก้าวสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม
แม้จะประสบผลสำเร็จ ในฐานะโปรดิวเซอร์ผู้อยู่เบื้องหลังเพลงดังหลายร้อยเพลง แต่ว่าก็ไม่เคยมีความรู้สึกว่า ตัวเองมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพเลย เขา คิดแค่ว่า วันนี้เขาสามารถช่วยเหลือครอบครัวได้แล้วเท่านั้น และ ตั้งใจที่จะเปิดโอกาสกับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการเข้ามาโลดแล่นในวงการเพลง
นั่นก็เลยเป็นอีกเหตุผลที่ NINO ในฐานะเจ้าของค่ายเพลง HYPE TRAIN GROUP ตัดสินใจร่วมมือกับ Universal Music Thailand โดยมีเป้าหมายที่จะปั้นศิลปิน และ คนเบื้องหลัง เพื่อสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่มีคุณภาพ ออกสู่คนฟังเพลงทั่วทั้งโลก
“เปรียบเทียบเราเป็นเหมือนทีมฟุตบอลเล็กๆ ในวันหนึ่ง เรา ต้องการจะมีคนมาสนับสนุนให้เราได้เดินทางออกไปสู่โลกกว้างได้มากขึ้น อย่างยุคนี้เป็นยุคที่ไม่มีอะไรมากั้น ไม่มีกำแพงแล้ว พวกเรา ได้เห็นแฟนคลับ ได้เห็นหลายวงไปเล่นต่างประเทศ
พวกเรา ได้มองเห็นฐานแฟนจากต่างประเทศที่ฟังเพลงของพวกเรา ผมว่า อีกไม่นาน พวกเรา จะมีแฟนเพลงใหม่ๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีคอมมูนิตี้ใหม่มากมาย เพื่อมาสนับสนุนศิลปินของเรา การร่วมมือกันในครั้งก็เลยทำให้ผมดีใจมาก” โปรดิวเซอร์ เล่า
“ผมต้องการทดลองอะไรไปเรื่อย เหตุผลนี้แหละที่ทำให้ผมเปิดค่ายเพลงเพิ่ม แล้วในอนาคต ก็บางครั้งก็อาจจะเปิดค่ายเพิ่มเติมอีก เพื่อทดลองอะไรใหม่ๆ ทดลองหลายๆแนว หาศิลปินแนวใหม่ ให้คนไทยได้ฟัง ผมว่า อันนี้ก็เป็นพื้นที่ของผมอยู่แล้ว” โปรดิวเซอร์ กล่าวปิดท้าย